วันที่ 21 ก.ค.66 ที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 2, กองกำกับการสืบสวนกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง , ตำรวจท่องเที่ยวชลบุรี, สภ.เมืองพัทยา, สภ.หนองปรือ, สภ.นาจอมเทียน และ นปส.พัทยา ร่วมแถลงข่าวการจับกุม Mr.Thomas  สัญชาติออสเตรเลีย หัวหน้ากลุ่มรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ชื่อดังพื้นที่เมืองพัทยา ได้ที่บ้านเลขที่ 55/57 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมตรวจยึดสิ่งของภายในบ้าน อาทิ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ HARLEY DAVIDSON และอุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งมีความเกี่ยวโยงกับแก๊งค์รถจักรยานยนต์กลุ่มบิ๊กไบค์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก

ซึ่ง มร.โทมัส รับว่าเป็นหัวหน้าแก๊งค์ของกลุ่มรถดังกล่าวในพื้นที่เมืองพัทยาจริง แต่ได้ถอนตัวไปแล้วนับตั้งแต่เกิดเหตุฆาตกรรมนักธุรกิจชาวเยอรมันที่เกี่ยวพันกับสมาชิกในแก๊งค์ก่อเหตุขึ้น ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านพบว่า มร.โท มัส เตรียมเก็บของย้ายออกจากบ้าน โดยจากการตรวจสอบข้อมูลของ มร.โทมัส พบว่ามีหมายจับคดีร่วมกันฉ้อ โกงประชาชนและนำเข้าข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯในพื้นที่ ของ สภ.เมืองพัทยา

ในส่วนของเป้าหมายอื่นๆในการปฏิบัติการครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 21/204 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง ซึ่งเป็นบ้านพัก ของ Mr.Danny สัญชาติเยอรมัน

เบื้องต้นตรวจพบสารเสพติดภายในร่างกาย พร้อมทำการตรวจยึดรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า รุ่น Z 900 ทะเบียน 1 กญ 6335 กาฬสินธุ์ นอก จากนี้ทาง ตม.ชลบุรี ได้ทำการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของคนต่างด้าว จำนวน 2 ราย ได้ แก่ Mr.Daniel Thomas Toth สัญชาติอเมริกัน และ Mr.Theodor Matis สัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังได้ทำการตรวจยึดรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์อีก 4 คัน เพื่อมาตรวจสอบเพิ่มเติม

 ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าจากกรณีที่เกิดเหตุสะเทือนขวัญการฆ่าหั่นศพนักธุรกิจชาวเยอรมันในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นชาวต่างชาติที่อยู่ในกลุ่มแก๊งค์รถบิ๊กไบค์ชื่อดังในพื้นที่เมืองพัทยา โดยพบ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดหลายประเภท เช่น ยาเสพติด การค้ามนุษย์ เป็นต้น เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบกลุ่มแก๊งค์บิ๊กไบค์เหล่านี้ที่มีความสุ่มเสี่ยงในการกระทำผิดในราชอาณา จักร ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำผิดก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมผลักดันออกนอกราชอาณาจักร และขึ้นแบล็คลิสต์ห้ามเข้าประเทศ อีกทั้งจากนี้จะได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจตราและสอดส่องกลุ่มชาวต่างชาติที่แฝงตัวเข้ามาและกระทำความผิดอื่นใด โดยสั่งการให้มีการดำเนินคดีจนถึงที่สุด ขณะที่ประชาชนหรือพลเมืองดีสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สถานีตำรวจใกล้บ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง