ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) เปิดตัว 2 โครงการเด่นเพื่อสังคมของมูลนิธิไทยเครดิต ภายใต้แนวความคิด EMpower for Community ได้แก่ โครงการพัฒนาชุมชนพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน และโครงการคัดสรรผลิตภัณฑ์กลุ่มชุมชน OTOP โดยนายวิญญู ไชยวรรณ ประธานมูลนิธิไทยเครดิต ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (Memorandum of Understanding (MoU)) กับ ผศ.ดร.พิทักษ์พงศ์ ป้อมปราณี รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม นำร่องพัฒนาชุมชนในตำบลลำเหย อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม เพื่อสร้างชุมชนต้นแบบที่ขับเคลื่อนตามแนวการพัฒนาโมเดลเศรษฐกิจใหม่ Bio-Circular-Green (BCG) Economy Model ที่เน้นเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงใช้ทรัพยากรน้อยลงเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและชีวภาพ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals)
นายวิญญู ไชยวรรณ ประธานกรรมการมูลนิธิไทยเครดิตกล่าวว่า “มูลนิธิไทยเครดิตก่อตั้งโดยธนาคารไทยเครดิตฯ เพื่อส่งเสริมความรู้และวินัยทางการเงิน สนับสนุนการพัฒนาชุมชน ศิลปะ วัฒนธรรม สังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ มูลนิธิฯ จึงริเริ่ม 2 โครงการคุณภาพเพื่อสังคมตามแนวความคิด EMpower for Community โดยยึดมั่นบนพื้นฐาน “Everyone Matters ทุกคนคือคนสำคัญ” ซึ่งเป็นหลักปรัชญาการดำเนินธุรกิจของธนาคารไทยเครดิตฯ ภายใต้ โครงการพัฒนาชุมชนพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน มูลนิธิฯ มุ่งพัฒนาชุมชนนำร่อง 2 ชุมชน ได้แก่ หมู่ที่ 8 บ้านนิคม และหมู่ที่ 14 บ้านสุขสบาย ในตำบลลำเหย อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม โดยโครงการนี้จะเป็นโครงการนำร่องซึ่งจะขยายไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั้งยังส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและบริการทางการเงินในระบบอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ให้ความรู้ และปลูกฝังวินัยทางการเงินที่ดี สร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียนในชุมชน ตลอดจนส่งเสริมการทำเกษตรปลอดภัยนำไปสู่ความอยู่ดีกินดีและปลอดภัยของเกษตรกรและประชาชนอย่างยั่งยืน”
นอกจากนี้มูลนิธิฯ ยังได้ริเริ่มโครงการคัดสรรผลิตภัณฑ์กลุ่มชุมชน OTOP เพื่อพัฒนาอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชนซึ่งเน้นการใช้ความรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์กลุ่มชุมชนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และชูอัตลักษณ์ท้องถิ่น โดยมูลนิธิฯ จะคัดเลือกผลิตภัณฑ์ดีเด่นจากกลุ่มผู้ผลิตชุมชนในพื้นที่ 77 จังหวัด เพื่อนำมาเป็นของที่ระลึกของธนาคารไทยเครดิตฯ ต่อไป