จากคดีที่ กัน  จอมพลัง  ได้เดินทางมาติดตามคดีที่นายธวัชชัย อายุ 31 ปี ได้ไปร้องขอให้ช่วยติดตามคดีที่นางมณีรัตน์ อายุ 57 ปี  ผู้เป็นแม่ ถูกน้องชาย คือนายวรายุทธ อายุ 28 ปี  และนางละอองดาว อายุ 28 ปี น้องสะใภ้  ได้ปลอมตัวเป็นโจรเข้าไปปล้นผู้เป็นแม่และทำร้ายแม่จนอาการสาหัส  ซึ่งเหตุเกิดที่บ้านเช่าเลขที่ 29/10  หมู่ 17  ต.ปากแรต  อ.บ้านโป่ง  เมื่อวันที่ 13 ก.ค.66 ที่ผ่านมา   และในวันที่ 16 ก.ค.66  ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขออนุมัติหมายจับจากศาลจ.ราชบุรี ไปจับลูกชายและลูกสะใภ้ในข้อหา ร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธ
       

คืบหน้าสุดในวันนี้(20 ก.ค.66 )พ.ต.อ.สมพงษ์  วงศ์เกตุใจ  ผกก.สภ.บ้านโป่ง  จ.ราชบุรี  ได้เปิดเผยว่า นางละอองดาว ลูกสะใภ้  ได้ยอมรับสารภาพแล้วว่าร่วมกับพี่ชายซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ชื่อนายศรุดา เข้าไปทำร้ายแม่ผัวส่วนสามีคือนายวรายุทธ ลูกชายของนางมณีรัตน์ นั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ก็เนื่องจาก การที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ทำการทำไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางทำให้พบว่าในช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. ได้มีรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ  สีน้ำเงิน ทะเบียน 2กค 5581  ราชบุรี ที่มีนายศรุดา ขี่ออกมาจากบ้านของนางละอองดาว และมาจอดที่หน้าปากซอยบ้านของผู้บาดเจ็บ และเดินเท้าเข้าไปที่บ้านของผู้เสียหาย ก่อนจะปีนหน้าต่างเข้าหลบซ่อนตัวอยู่ รอจนผู้เสียหายกลับมาในเวลา 07.30 น. เมื่อผู้เสียหายเข้าไปในบ้านจึงได้ช่วยกันทำร้าย โดยใช้สายไฟรัดมือและเท้า ก่อนจะใช้สากกระเบือทุบ จากนั้นก็ชิงกระเป๋าสะพายของผู้ตายไป ซึ่งมีเงินสด 3,000 บาท แหวนทอง 2 วง  ก่อนจะหลบหนี โดยนางละอองดาวไปยืนรอนายศรุดา  ที่หน้าห้องผู้เสียหาย ตามภาพที่ปรากฎในกล้องวงจรปิด  ที่มีผู้หญิงสวมเสื้อสีแดงยืนอยู่ที่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย เพื่อรอนายศรุดา  มารับก่อนจะพากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีและนำของกลางซึ่งเป็นสากกระเบือ  เสื้อผ้าที่สวมใส่ รวมทั้งกระเป๋าของผู้เสียหายไปทิ้งในถังขยะ  

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังเทศบาลเมืองบ้านโป่ง  เพื่อตรวจสอบรถขนขยะที่มาเก็บขยะในวันนั้นเพื่อจะได้ไปค้นหาหลักฐาน รวมทั้งนำผู้ต้องหาทั้งสองคนไปตรวจค้นที่บ้านเพื่อหาของกลางและนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว  เบื้องต้นนางละอองดาว  ซึ่งเป็นลูกสะใภ้ได้ยอมรับสารภาพว่า สาเหตุที่ทำร้ายแม่ผัว  เนื่องจากเก็บความแค้นไว้นานเพราะแม่สามีนั้นพยายามกีดกันความรักระหว่างตนกับสามี  และพยายามไปพูดให้ร้ายตนกับคนอื่น  จนได้ชักชวนพี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกันมาดักรอทำร้ายแม่ผัวดังกล่าว  ส่วนสามีนั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและในช่วงที่ตนมาก่อเหตุกับพี่ชายนั้นสามีอยู่ที่บ้าน  แต่ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ได้ปักใจเชื่อในคำให้การของนางละอองดาว  และจะต้องหาหลักฐานและตรวจสอบว่า นายวรายุท  คำใส  ลูกชายของผู้บาดเจ็บมีส่วนเกี่ยวข้องหรือร่วมวางแผนในเรื่องนี้ด้วยหรือไม่  แต่หากพบว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องจริงก็จะต้องทำเรื่องขอให้ศาลออกหมายปล่อย   เบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหานางละอองดาว  และนายศรุดา ในข้อหา บุกรุกเคหะสถานในยามวิกาลและร่วมกันทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์  พร้อมทั้งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีต่อไป