เมื่อเวลา 15.35 น. วันที่ 20 ก.ค. 66 ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุม สส. ของพรรคในวันนี้ ว่า เป็นการหารือถึงแนวทางการจัดตั้งรัฐบาลหลังจากนี้ โดยตนได้เดินทางไปพรรคเพื่อไทย (พท.) เพื่อหารือร่วมกัน ว่าจะประเมินในแต่ละฉากทัศน์อย่างไรบ้าง โดยทิศทางหลักในการหาทางออกตอนนี้ คือการพยายามจัดตั้งรัฐบาลร่วมทั้ง 8 พรรค ให้สำเร็จ 

เมื่อถามว่า ได้มีการหารือกับพรรคเพื่อไทย หรือยังว่าในการเสนอชื่อแคนดิเตตนายกรัฐมนตรีรอบหน้า จะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องผ่านการประชุมสส. และคณะกรรมการบริหารของพรรคก้าวไกลในวันนี้ ส่วนกรณีที่นายเศรษฐา ได้ออกมาระบุว่า ในการจัดตั้งรัฐบาลจะไม่เอาการแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 มองเรื่องนี้อย่างไร นายชัยธวัชกล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุย และหาข้อสรุปร่วมกัน 

เมื่อถามถึงแนวโน้มการประชุมครั้งหน้า ที่จะพลิกเป็นพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มีมากน้อยแค่ไหน นายชัยธวัช กล่าวว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เคยแถลงไว้แล้ว หากประเมินแล้ว โอกาสที่พรรคก้าวไกล จะได้รับเลือกเป็นนายกฯ ไม่มีความเป็นไปได้จริงๆ ก็คงต้องเปิดโอกาสให้กับประเทศ อยู่บนกรอบที่ว่าการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันของ 8 พรรคร่วม และเอ็มโอยูที่ได้ทำร่วมกันไว้ ส่วนจะมีการแก้เอ็มโอยูหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า คงยังไม่ถึงขั้นนั้น 

เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล นโยบายผู้สูงอายุเดือนละ 3,000 บาท, การยกเลิกเกณฑ์ทหาร หรือนโยบายอื่นๆ จะถูกนำเสนอเข้าสภาหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยรายละเอียดกัน เมื่อถามต่อว่า ทิศทางการเมืองหลังจากนี้ ได้มีการพูดคุยกับนายพิธาหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เมื่อคืนก็ได้มีการคุยกันจิตใจดีแข็งแรงดี ซึ่งที่ผ่านมานายพิธาไม่ได้พักผ่อนเลย จึงขอไปพักผ่อนกับลูกสาว และในวันที่ 22 ก.ค. ก็จะกลับมาทำงานกันอีกครั้ง 

เมื่อถามว่า ในการประชุมพรรคร่วมครั้งต่อไป คิดว่าจะได้ฉากทัศน์ที่ชัดเจนหลังจากนี้เพิ่มขึ้นใช่หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า อีก 1-2 วันก็จะชัดเจน เพราะเวลาในการทำงานมีจำกัด ส่วนที่ระบุว่า จะมีการพลิกขั้วให้พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านนั้น เรามองว่าคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับประชาชน และประเทศ คือการพลิกขั้วรัฐบาลจากสมัยที่แล้ว ประชาชนได้แสดงความชัดเจนแล้ว ว่าต้องการให้พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย ขึ้นมาเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ ก็คงจะทำให้ดีที่สุด แต่ก็ยังมีกระแสว่า จะมีการเสนอนายกฯ ที่มาจากพรรคเพื่อไทย แต่หากมีพรรคก้าวไกล ร่วมก็จะยังไม่โหวตให้เรื่องนี้อย่าเพิ่งรีบไปสรุป 

เมื่อถามว่า หากเหตุการณ์ไม่เหมือนเดิม จะมีการพูดคุยเพื่อเสนอชื่อนายพิธาอีกครั้งหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ในที่ประชุมสส. และกรรมการบริหารพรรคประเมินกันในวันนี้ ก็คงจะเป็นวาระหลักในการพูดคุยกัน ซึ่งจะต้องมีการประเมิน เพราะไม่มีความชัดเจน ว่าเข้าข่ายข้อบังคับที่ 41 ความพยายามที่จะไปตีความว่าการเสนอชื่อนายกฯ ว่าเข้าข่ายข้อบังคับที่ 41 เลยไม่สมเหตุสมผล ซึ่งใช้สำหรับญัตติทั่วไป หลังจากที่สภามีมติออกมาแล้วเมื่อวาน แม้แต่นักกฎหมายที่อยู่คนละฝ่ายกับประชาธิปไตยก็ยังรับไม่ได้ ถือว่าเป็นการลงมติที่เป็นปัญหาจริงๆ สำหรับสภาชุดนี้

เมื่อถามถึงกรณีที่มีคำแนะนำจากนักวิชาการ ให้ยื่นตีความใหม่ เป็นอีกแนวทางที่จะพิจารณาด้วยหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกันในพรรค แต่ประชาชนก็สามารถไปยื่นได้