นายศานนท์ หวังสร้างบุญ เผยความคืบหน้าการรับบริจาคโน้ตบุ๊กเก่าตามโครงการพัฒนาห้องเรียนดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ ว่า ปัจจุบัน กทม.ต้องการให้สื่อมวลชนหรือสื่อต่าง ๆ ช่วยประชาสัมพันธ์ถึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงประชาชนทั่วไป เพื่อร่วมกันบริจาคคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เนื่องจาก กทม.ยังต้องการเป็นจำนวนมาก เพื่อนำไปใช้ในห้องเรียนดิจิทัล (Digital Classroom) โดยนักเรียนทุกคนจะได้มีคอมพิวเตอร์เฉพาะของตัวเอง และครูผู้สอนจะได้รับการอบรมให้ปรับแนวทางการสอนมาใช้สื่อการเรียนการสอนที่ส่งเสริมให้เกิด Active Learning เช่น Google Workspace for Education, Jamboard, Kahoot

 

จากการวิจัยและทดลองนำร่องกับนักเรียนระดับชั้น ป.4 โรงเรียนไทยนิยมสงเคราะห์ พบว่า นักเรียนสนุกกับการเรียนมากขึ้น มีส่วนร่วมกับบทเรียนได้ตลอดทั้งชั่วโมง มีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนักเรียนที่เคยพบว่ามีปัญหาเรื่องการมีส่วนร่วมในชั้นเรียน เช่น นักเรียนบางคน ครูบอกว่าปกติมาสายตลอด ไม่ค่อยมีส่วนร่วมในชั้นเรียน แต่ปัจจุบันมาโรงเรียนเช้าทุกวันเพราะอยากมาเรียนหนังสือ เป็นต้น

 

ทั้งนี้ กทม.ได้ร่วมกับมูลนิธิกระจกเงา เพื่อปรับปรุง ซ่อมแซมโน้ตบุ๊ก ก่อนนำส่งให้นักเรียนแต่ละโรงเรียนได้ใช้ โดยมูลนิธิกระจกเงาจะเป็นผู้ตรวจเช็กสภาพการใช้งาน อัปเกรดความสามารถของคอมพิวเตอร์และโปรแกรมที่จำเป็นต่อการใช้งาน เช่น ChromeOS Flex เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้งานได้ฟรี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย สามารถติดตั้งในคอมพิวเตอร์ที่มีสเปคไม่สูงมาก เหมาะกับคอมพิวเตอร์มือสอง เพียง มี RAM 4 GB, HDD หรือ SSD 16 GB ขึ้นไป ซึ่งเป็นสเปคพื้นฐานของคอมพิวเตอร์ ผู้บริจาคสามารถส่งไปตรวจเช็กตามที่อยู่ของมูลนิธิกระจกเงาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

 

นายศานนท์ กล่าวว่า กทม.ไม่มีนโยบายรับบริจาคเป็นเงินสด แต่หากมีผู้ต้องการบริจาคเป็นเงินสด สำนักการศึกษาสามารถประสานให้ผู้บริจาคนำเงินไปซื้อคอมพิวเตอร์มือสองราคาพิเศษจากโรงงานที่รับได้ ทั้งนี้ ระหว่างรวบรวมคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก กทม.ได้จัดอบรมครูเพื่อฝึกทำแผนการสอนรูปแบบดิจิทัล เสริมความรู้ให้สามารถปรับเปลี่ยนออกจากกรอบการสอนเดิม เช่น จัดทำสไสด์การสอนที่มีความทันสมัย น่าสนใจ สอดคล้องกับเนื้อหาที่จะสอน โดยปัจจุบันมีผู้แจ้งความประสงค์บริจาคโน้ตบุ๊กแล้ว 400 เครื่อง จากเป้าหมายปี 2566 จำนวน 2,200 เครื่อง ปี 2567 จำนวน 14,700 เครื่อง ปี 2568 จำนวน 58,700 เครื่อง และปี 2569 จำนวน 130,000 เครื่อง ผู้บริจาคสามารถติดต่อให้เจ้าหน้าที่ไปรับโน้ตบุ๊กที่บ้านได้ หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ digitalclassroom.bangkok.go.th

 

“ปัจจุบันโน้ตบุ๊กยังไม่เพียงพอและต้องการอีกจำนวนมาก ขอเชิญชวนท่านใดหรือภาคเอกชนที่มีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเก่าไม่ได้ใช้งาน สามารถบริจาคเพื่อร่วมกันสนับสนุนการศึกษาให้กับเยาวชน สามารถนำไปมอบไว้ที่สำนักงานเขตได้เพื่ออัปเดตโปรแกรมใช้งานก่อนนำส่งโรงเรียนต่าง ๆ ต่อไป” นายศานนท์ กล่าวไป