เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 20 ก.ค. 66 ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย งดออกเสียง ในการประชุมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี วาระพิจารณาตีความข้อบังคับรัฐสภาข้อที่ 41 ว่า ตนทราบว่าพล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ ออกจากสภาไปก่อนจึงตั้งสมมุติฐานว่าไม่ได้โหวต แต่เรื่องดังกล่าวไม่มีผล เพราะการโหวตตีความข้อบังคับ และการโหวตนายกรัฐมนตรีเป็นคนละกรณีกัน
เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์ของแปดพรรคร่วมยังราบรื่นหรือไม่ เพราะพล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ออกมาวิจารณ์พรรคก้าวไกลอย่างหนัก นพ.ชลน่าน กล่าวว่าในกระบวนการการทำงานร่วมกัน ความคิดความเห็นของแต่ละคนก็เป็นเสรีภาพ จะถือว่าเป็นความเห็นรวมก็ไม่ได้ ถ้าเป็นความเห็นรวมต้องมาปรึกษาหารือกัน ต้องพูดในนามแปดพรรค หรือสองพรรคจะเอาความเห็นของบุคคลมาตีความเป็นความเห็นรวมไม่ได้
เมื่อถามว่า สว.บางส่วนที่เคยสนับสนุนนายพิธา ครั้งนี้ไม่ได้ออกเสียงให้ มีนัยยะอะไรหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ไม่ทราบ การโหวตครั้งนี้เป็นเรื่องความเห็นในการวินิจฉัยข้อบังคับ ไม่เกี่ยวกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เพียงแต่เป็นความเกี่ยวเนื่อง เป็นข้อเสนอในการเลือกนายกรัฐมนตรี เขาจึงเอามาตีความข้อบังคับการประชุม จะเอามาเป็นประเด็นว่าเดี่ยวกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ ไม่ได้ ไม่ว่าใครเสนอเช่นนี้ ก็จะอยู่บนพื้นฐานการตีความตามข้อบังคับ
เมื่อถามย้ำว่า คำพูดของพล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ ถูกตีความว่า จะให้พรรคก้าวไกลถอยไปเป็นฝ่ายค้าน นพ.ชลน่านกล่าวว่า เป็นความเห็นของพล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ ท่านอาจจะมองว่ามันเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ คงจะเป็นไปในทำนองว่าช่องทางควรจะเป็นอย่างไรมากกว่า แต่ก็ไม่สามารถไปคิดแทนท่านได้