เจ้าหน้าที่ขยายผลตรวจสอบกรณีตรวจพบมีการประกาศขายที่ดินในโครงการตามพระราชประสงค์หมู่บ้านสหกรณ์ป่าเด็ง และอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่ายางน้ำกลัดเหนือ และป่ายางน้ำกลัดใต้ ติดกับแนวเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจำนวน 200 ไร่ ผ่านสื่อออนไลน์ โดยตั้งราคาไว้ 12 ล้านบาท ล่าสุดชุดพยัคฆ์ไพร ร่วมกับสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรี เข้าดำเนินการตรวจยึด หลังพบข้อมูลว่าพื้นที่ดังกล่าวเป้นพื้นที่ป่าไม้ส่วนกลาง ยังไม่ได้มีการรังวัด หรือจัดที่ดินทำกินให้กับราษฎรแต่อย่างใด
นายทรงศักดิ์ กิตติธากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สั่งการให้นายชาญชัย กิจศักดาภาพ ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการพิเศษ หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) และนายคม ศรีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) นำกำลังเจ้าหน้าที่ ร่วมกับสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรี โดยส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พบ.1 (ยางชุม) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป. 10 สาขาเพชรบุรี เจ้าหน้าที่โครงการตามพระราชประสงค์หมู่บ้านสหกรณ์ป่าเด็ง และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารตำบลป่าเด็ง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีการประกาศขายพื้นที่ในโครงการตามพระราชประสงค์หมู่บ้านสหกรณ์ป่าเด็ง ท้องที่ตำบลป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี จำนวน 200 ไร่ โดยตั้งราคาไว้ 12 ล้านบาท พร้อมระบุข้อความเหมาะสำหรับการปลูกทุเรียน และทำฟาร์มปศุสัตว์ พิกัดป่าเด็งป่าละอู
จากการตรวจสอบ พบมีการบุกรุกแผ้วถาง ยึดถือครอบครองทำประโยชน์ และมีการก่อสร้างบ้านพัก ถังเก็บน้ำคอนกรีต บางส่วนมีการปรับพื้นที่เพื่อปลูกทุเรียน ขนาดความสูงประมาณ 80 – 100 เซนติเมตร นับได้จำนวน 104 ต้น เจ้าหน้าที่จึงได้ ทำการตรวจวัดพิกัดตำแหน่งแปลงที่ดิน คำนวณเนื้อที่ทั้งหมดได้ 149-0-35 ไร่ จากการสอบถามผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการตามพระราชประสงค์หมู่บ้านสหกรณ์ป่าเด็ง ได้แจ้งว่า พื้นที่ที่ทำการตรวจสอบ เป็นพื้นที่ป่าไม้ส่วนกลาง ในโครงการตามพระราชประสงค์หมู่บ้านสหกรณ์ป่าเด็ง ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่ายางน้ำกลัดเหนือ และป่ายางน้ำกลัดใต้ ท้องที่ตำบลป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งมีพื้นที่ติดกับแนวเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และยังไม่ได้มีการรังวัด หรือจัดที่ดินทำกินให้กับราษฎรแต่อย่างใด โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่กรมป่าไม้ได้อนุญาตให้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการเข้าทำประโยชน์อยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อจัดที่ดินเป็นหมู่บ้านสหกรณ์จำนวน 15,625 ไร่
เจ้าหน้าที่จึงได้จัดทำบันทึก พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรแก่งกระจาน เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
เจ้าหน้าที่จึงฝากเตือนผู้ที่คิดจะซื้อที่ดินลักษณะดังกล่าว ขอให้ตรวจสอบความถูกต้องของที่ดินให้ละเอียดชัดเจน โดยเฉพาะจะต้องมีเอกสารสิทธิที่ดิน ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มิฉะนั้นหากเจ้าหน้าที่ตรวจพบก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย.