เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 19 ก.ค. 66 ที่รัฐสภา ระหว่างการประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่สองในวันนี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล กล่าวในที่ประชุมภายหลังมีหนังสือจากศาลรัฐธรรมนูญถึงประธานรัฐสภา มีคำสั่งยุติการปฎิบัติหน้าที่สส. จากกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามมาตรา 82 สถานะสส. ของนายพิธา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ จากเหตุมีชื่อถือครองหุ้นสื่อบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายพิธาผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่สส. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรค 2 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 เห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้อง และเอกสารประกอบคำร้อง ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีตามที่ถูกร้องประกอบกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายพิธาอาจก่อให้เกิดปัญหาข้อกฎหมาย และการคัดค้านโต้แย้ง เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานสำคัญของที่ประชุมรัฐสภา และที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ จึงมีคำสั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่สส. ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค 66 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

โดยนายพิธา ได้กล่าวในห้องประชุมรัฐสภาว่า “ปัจจุบันตอนนี้ มีเอกสารจากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ คงจะขออนุญาตพูด กับประธานสภาว่า รับทราบคำสั่ง จะปฏิบัติตามอย่างที่เป็นคำสั่ง จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยเป็นอื่น ขอใช้โอกาสนี้ อำลาท่านประธาน จนกว่าเราจะพบกันใหม่ และขอฝาก เพื่อนสมาชิกในการใช้รัฐสภา ดูแลพี่น้องประชาชน เชื่อว่าประเทศไทยจะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. และถ้าประชาชนชนะมาได้แล้วครึ่งทาง เหลืออีกครึ่งทาง ถึงแม้ว่าตนจะยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ ขอให้เพื่อนสมาชิกทุกคนช่วยกันดูแลประชาชนต่อไป”

จากนั้น ประธานรัฐสภา ได้ขอบคุณนายพิธา และกล่าวว่าการเคารพต่อกติกาของสภา โดยไม่ขอปฏิบัติหน้าที่จนกว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะมีการเปลี่ยนแปลงนั้น ถือว่าได้ทำหน้าที่สมาชิกรัฐสภาเป็นอย่างดีแล้ว ก่อนที่เพื่อนสมาชิกรัฐสภาจะลุกขึ้นปรบมืออำลา นายพิธา ขณะลุกออกจากห้องประชุม