วันที่ 19 ก.ค. 66 ที่รัฐสภา พล.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ว่า ส่วนตัวมองว่าจะไม่ได้โหวตด้วยซ้ำไป ในส่วนที่ฟันธงว่าจะมีการคว่ำญัตติเลยหรือไม่นั้น ก็ไม่ได้คว่ำข้อญัตติ แต่ในช่วงเช้าจะต้องรอคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญว่าจะให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้า และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ หากไม่ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ก็สามารถดำเนินการในวาระต่อไปได้ แต่หากให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หมายถึงหยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. การเสนอนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้เกี่ยวกับ สส. เพราะสมัยที่แล้วพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ไม่ได้เป็น สส. เป็นประเด็นที่ต้องถกกัน เพราะ สว. บอกว่าเป็นคุณสมบัติอันเดียวกัน เราจะไปบอกเลยก็ไม่ได้ ต้องมีการถกเถียงกัน ส่วนจะมีมติหรือไม่สว.ก็บอกว่านี่คือญัตติที่ตกไปแล้วไม่สามารถนำเสนอใหม่ในการประชุมสมัยนี้ 

เมื่อถามว่าหากโหวตนายกฯไม่ได้ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลจะทำอย่างไรต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า หากโหวตไม่ได้ 8 พรรคร่วมก็เตรียมเสนอ แต่ถ้าเสียงไม่ถึง และญัตติตกไปก่อน ซึ่งพรรคก้าวไกลมีการเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแค่คนเดียว หากไม่สามารถเสนอซ้ำได้ ชื่อก็จะตกไปทันที

เมื่อถามถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้ได้ไปพูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อขอเสียงร่วมโหวตนายพิธา พรรคก้าวไกลเห็นด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า หากถามแบบนี้ พรรคก้าวไกลก็ต้องเอาด้วยเพราะเป็นการเพิ่มคะแนนให้เขา แต่ยังไม่มีเสียงตอบรับจากทั้ง 2 พรรค ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้ง 2 พรรค ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ติดขัดในเรื่องของการแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 

เมื่อถามว่า หากเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคก้าวไกล มองว่าพรรคก้าวไกลต้องถอยเรื่อง การแก้ไขมาตรา 112 หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ก้าวไกลก็เป็นตัวของเขา  ก่อนหน้านี้ 8 พรรคร่วมมีมติร่วมกัน ว่าจะไม่แตะมาตรา 112  หากเพื่อไทยมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็ต้องรวมเสียงก้าวไกลไปด้วย เป็น 312 เสียงเหมือนเดิมแต่สว.ยืนยันว่าถึงอย่างไรก็ไม่เอาก้าวไกล หากเสนอเช่นนี้ก็ตกไป แต่ถ้าเพื่อไทยไม่เสนอก็ผิดข้อตกลง หากเสนอนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ก็จะตกไปด้วย พรรคเพื่อไทยก็ต้องเสนอคนใหม่ ซึ่งสว.อาจไม่ขัด หากไม่มีพรรคก้าวไกล