วันที่ 17 ก.ค. 66 ที่ตึกไทยซัมมิท เมื่อเวลา 18.00 น. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าเสรีรวมไทย เปิดเผยถึงกรณีมีกระแสข่าว ได้มีการเชิญพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคชาติไทยพัฒนา มาร่วมรัฐบาล ว่า อยู่ในระหว่างการตัดสินใจของทั้งสองพรรคดังกล่าว แต่ยืนยันว่า หากจะมีการร่วมรัฐบาลจะต้องมากันทั้งพรรค
ส่วนการเสนอแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่บางพรรค ถือเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของ ส.ว. ตนได้อภิปรายไปแล้ว ว่ามาตราดังกล่าวเป็นกฎหมายอาญาปกติ สามารถแก้ไขได้ แม้แต่รัฐธรรมนูญที่เป็นกฏหมายสูงสุด ก็ยังสามารถแก้ได้ เช่นเดียวกับมาตรา 112 ที่ถูกแก้ไขมาหลายครั้งแล้ว ตั้งแต่พ.ศ. 2499 แต่คนที่ไม่ได้ศึกษา ก็จะไม่ทราบว่าสามารถแก้ได้ อยู่ที่เนื้อหาว่าจะแก้อย่างไร
เมื่อถามว่า สามารถดีลได้เยอะหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ก็อยู่ที่ทางพรรคติดต่อไป เขาจะชั่งน้ำหนักดู ว่าควรจะเป็นอย่างไร และต้องดูเกมการเมืองเราคงไปชี้นำเขาไม่ได้ พรรคที่ติดต่อไป ก็ขอนำเรื่องเข้าสู่กรรมการบริหารพรรคก่อน เขาคงไม่กล้าตัดสินใจคนเดียว
เมื่อถามว่า ได้เชิญพรรคไหนไปบ้าง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ โดยทางพรรคได้นำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการบริหารพรรคแล้ว เขาไม่สามารถตัดสินใจได้เหมือนพรรคเสรีรวมไทย ส่วนในแต่ละพรรคมีเงื่อนไขอะไรบ้าง ก็เป็นเรื่องของเขา
เมื่อถามว่า ให้มาช่วยสนับสนุนในการโหวตเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรีเฉยๆ ไม่เข้าร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า "โอ้ย..มาถึงตอนนี้ เขาก็ต้องเอาแต่ประโยชน์แล้ว มีใครเขาจะมาช่วยเฉยๆ"
เมื่อถามว่า พรรคที่ติดต่อไปจะให้คำตอบเมื่อใด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ก่อนวันที่ 19 ก.ค.
เมื่อถามว่า ทางพรรคก้าวไกลเอาด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า "เขาจะไม่เอาได้ยังไง ถ้าไม่เอาก็โง่เต็มทีแล้ว" ส่วนในที่ประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาล ไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้
เมื่อถามว่า 8 พรรคร่วมรัฐบาล มีการเบรคหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า "จะไปเบรคได้ยังไง เขาไม่ได้พูดอะไรเลย"