วันที่ 17 ก.ค.66 นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ประธานฯ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (สสท.) เปิดฤดูกาลลงแขกปลูกเมล็ดพันธุ์ข้าวอินทรีย์และกล่าวให้โอวาท,กำลังใจต่อสมาชิกสหกรณ์รวมถึงเกษตรกร ชาวนาที่มาร่วมงานโดยมีนายปัณฐวิชญ์ มุ่งสมัครศรีกุล ผู้อำนวยการ สสท. , พลตรีเอกภาพ สุหร่าย อดีตผู้ทรงคุณวุฒิ กองทัพบก,นายณราวุฒิ ปิยโชติสกุลชัย อดีต ผอ.กองผลิตภัณฑ์ข้าวอินทรีย์ ,ดร.สำเริง บุญโต ประธานฯสสจ.สุรินทร์, นางสาวพยอม พงพาน ผอ.กลุ่มส่งเสริมสหกรณ์ 1 ร่วมเป็นเกียรติร่วมกิจกรรมดำนา และเยี่ยมชมกิจการสหกรณ์/ศูนย์เรียนรู้การเกษตร ณ สหกรณ์การเกษตร วัน วัน วัน จำกัด บ้านนาสาม ตำบลนาบัว อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์
นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม เปิดเผยถึงการมาร่วมลงแขกดำนา ครั้งนี้ว่าเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับสมาชิกสหกรณ์ เกษตรกร ชาวนาทั่วประเทศเพราะอาชีพชาวนาและการปลูกข้าวไม่ใช่เรื่องง่ายต้องอาศัยความอดทน โดยในวันนี้นอกเหนือจากเป็นประธานในพิธีเปิดมีโอกาสร่วมลงแขกและ ปลูกเมล็ดพันธุ์ข้าวอินทรีย์ 2 สายพันธ์ุประกอบด้วย ข้าวมะลิดำ และ ข้าวมะลิโกเมนสุรินทร์ โดยข้าวมะลิดำ เป็น“นวัตกรรมข้าวนาถุง”ปลูกในถุงดำ เพื่อเป็น เมล็ดพันธุ์คัด โดยใช้ข้าว สายพันธุ์ มะลิดำ เพียง 1 เมล็ด ต่อ 1 ถุง หรือ 1 ขีด ต่อ 1 ไร่ เท่านั้น นับว่าเป็นภูมิปัญญาของสหกรณ์อย่างแท้จริงและน่าชมเชยพร้อมทั้งเชิญชวนให้เกษตรกรหันมาปลูกข้าวอินทรีย์นอกจากจะได้ผลผลิตเพิ่มยังปลอดสารพิษพิษและดีต่อสุขภาพ
นางสาว ณชณฆ์ ตรงใจ ที่ปรึกษาสหกรณ์การเกษตร วัน วัน วัน จำกัดและผู้ก่อตั้ง วัน วัน วัน ตามแนวทางศาสตร์พระราชา กล่าว กว่า 10ปีที่ผ่านมา สหกรณ์การเกษตร ทำการปลูกข้าวเจ้าหอมมะลิ และข้าวเจ้าสี สายพันธุ์ต่างๆ อาทิ ข้าวขาวดอกมะลิ 105 ,ข้าวหอมมะลิ กข.15, ข้าวมะลิแดง และ ข้าวมะลินิลสุรินทร์ เพื่อเป็นการรักษาพันธุกรรมและขยายพันธุ์ ข้าวหอมมะลิทุกสายพันธุ์ และเพื่อเป็นต้นแบบในการปลูกเมล็ดพันธุ์ข้าวอินทรีย์ พร้อมทั้งนำแจกและจำหน่ายให้กับสมาชิกและผู้ที่สนใจ ได้นำไปขยายพันธุ์ต่อในแปลงนา และได้รับความสนใจตอบรับเป็นอย่างดีจากเกษตรกร เนื่องจากเป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพสูงและไม่มีสารเคมี ซึ่งเมล็ดพันธุ์ข้าว มี 4 ระดับชั้น โดยเรียงจากระดับคุณภาพที่สูงที่สุด 1.ชั้นพันธุ์คัด 2.ชั้นพันธุ์หลัก 3.ชั้นพันธุ์ขยาย และ 4.ชั้นพันธุ์จำหน่าย ซึ่ง สหกรณ์ สามารถปลูกเมล็ดพันธุ์ข้าวอินทรีย์ได้ ทั้ง 4 ระดับชั้น กิจกรรมลงแขกปลูกเมล็ดพันธุ์ข้าวอินทรีย์ในวันนี้ เป็นการปลูกข้าว ชั้นที่ 1 คือ แบบชั้นพันธุ์คัด และชั้นที่ 2 คือ แบบชั้นพันธุ์หลัก เป็นการทำนาแบบประณีตได้ผลผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวอินทรีย์บริสุทธิ์คุณภาพสูง ไม่ปนข้าวสายพันธุ์อื่นๆ ส่งผลให้สมาชิก และเกษตรกรได้ราคาข้าวที่สูงขึ้น เป็นการแก้ไขปัญหา ได้แบบมั่นคงและยั่งยืน
นางสาว ณชณฆ์ ตรงใจ กล่าวเพิ่มเติมว่าการปลูกเมล็ดพันธุ์ข้าวแบ่งเป็น 2 รูปแบบ แบบที่ 1 “นวัตกรรมข้าวนาถุง”เป็นการปลูกในถุงดำ เพื่อปลูกเป็น เมล็ดพันธุ์คัด โดยใช้ข้าว สายพันธุ์ มะลิดำ เพียง 1 เมล็ด ต่อ 1 ถุง หรือ 1 ขีด ต่อ 1 ไร่ เท่านั้น จากที่โดยปกติเกษตรกรจะใช้พันธุ์ข้าวปลูก ประมาณ 20-30 กก.ต่อไร่ นวัตกรรมข้าวนาถุง ผ่านการลองผิดลองถูก ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ในปี 2561 และได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ จากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ร่วมกับ กอ.รมน.จ.สุรินทร์
แบบที่ 2 การปลูกในแปลงนา เพื่อปลูกเป็น เมล็ดพันธุ์หลัก โดยใช้ข้าว สายพันธุ์ มะลิโกเมนสุรินทร์ เพียง 1 กก.ต่อไร่ โดยได้ทำการนำเมล็ดพันธุ์ 1 กก.มาเพาะในแปลงเพื่อเป็นต้นกล้า อายุประมาณ 20 วัน ก็ทำการถอน เพื่อนำมาปักดำ โดยปักดำ แบบต้นเดี่ยว มีระยะห่างประมาณ 30 ซม.การปลูกวิธีนี้จะทำให้ต้นข้าวแตกกอดี ต้นข้าวแข็งแรง และให้ผลผลิตข้าวสูงขึ้น ซึ่งการปลูกข้าวทั้ง 2 แบบนี้ จะใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี และยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลง แต่อย่างใด ซึ่งทางสหกรณ์ มีปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง ที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายจากกรมวิชาการเกษตรเป็นที่เรียบร้อย และใช้ชื่อ ปุ๋ยตรา วัน วัน วัน จากความมุ่งมั่น ตั้งใจ และลงมือทำอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ได้รับการการันตี ด้วยรางวัลชนะการประกวดข้าวระดับจังหวัด 6 ปีซ้อน รวมกว่า 20 รางวัล และได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ ในการประกวดข้าวเพื่อรองรับและส่งเสริมการส่งออกของตลาดข้าวโลกรวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมทวงบัลลังก์แชมป์โลกข้าวหอมมะลิคุณภาพที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2563 อีกด้วย