วันที่ 17 ก.ค.66 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรค พท. กล่าวถึงผลการประชุมระหว่างพรรค พท.และพรรคก้าวไกล (ก.ก.) จะได้ข้อสรุปหรือไม่ว่า ต้องได้ข้อสรุปและมีมติร่วมกันระหว่างพรรค พท. พรรค ก.ก.และพรรคร่วมรัฐบาล ก่อนที่จะมีการประชุมรัฐสภาในวันที่ 19 ก.ค.นี้ส่วนกระแสข่าวที่พรรค พท.จะส่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีนั้น ย้ำว่าเรายึดมั่นในเอ็มโอยู 8 พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งพรรค ก.ก.ขอเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค ก.ก. ให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณานายกรัฐมนตรีอีกครั้ง แต่วันนี้เราต้องคุยกัน 2 พรรคในวันนี้ช่วงบ่ายก่อน

เมื่อถามถึงกรณีที่ ส.ว.เตรียมเสนอให้รัฐสภาพิจารณาว่าการเสนอชื่อนายพิธาเป็นครั้งที่ 2 เป็นญัตติซ้ำตามข้อบังคับการประชุมข้อที่ 41 นพ.ชลน่านกล่าวว่า เราได้ฝากพรรค ก.ก.และ 8 พรรคร่วมรัฐบาลไปเตรียมการยกข้อกฎหมายมาต่อสู้ แต่ตนมองในนามส่วนตัวว่าญัตติมี 2 ความหมาย คือญัตติทั่วไปที่เสนอให้สภาดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ส่วนอีกประเภทคือญัตติที่เขียนไว้เฉพาะ มีกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญว่าจะต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น การเลือกนายกรัฐมนตรี ดังนั้น เชื่อว่าจะต้องมีการต่อสู้กันทางกฎหมาย

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าในวันที่ 19 ก.ค.นี้จะมีการเสนอตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย จะมีการหารือการป้องกันและรับมืออย่างไร นพ.ชลน่านกล่าวว่า เรากังวล แต่เป็นสิทธิที่เขาจะดำเนินการ ถ้ามันเกิดขึ้นจริงทำอย่างไรให้เสียงข้างน้อยไม่ชนะ มันคือหน้าที่เรา ซึ่งวันนี้จะมีการพูดคุยกันเรื่องนี้ด้วยว่าจะมีวิธีการเรื่องนี้อย่างไร เพราะสถานการณ์การเมืองเปลี่ยนทุกวินาที

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่มีผู้สนับสนุนของพรรค ก.ก.พยายามกดดันและคุกคาม ส.ว. จะส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกนายพิธา หรือพรรค พท.หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ต้องดูข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งผลการกดดันจะเป็นอย่างไรตนตอบไม่ได้ ต่อให้พรรค พท.เป็นแกนนำ หรือพรรค ก.ก.ไม่ได้เป็นแกนนำ แต่ถ้ามีพรรคก.ก.ร่วมรัฐบาลนั้นเขาก็ไม่เลือก ก็เป็นความเห็นของ ส.ว.บางคน เชื่อว่าไม่ใช่ ส.ว.ทุกคน

 

เมื่อถามถึง กรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ระบุว่า ได้มีการโทรศัพท์ไปพูดคุยกับแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เพื่อให้มาร่วมตั้งรัฐบาล นพ.ชลน่านกล่าวว่า เป็นความเห็นของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังไม่ใช่มติของ 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาล รวมถึงประเด็นที่นายพิธาเสนอเรื่องการแก้ไขมาตรา 272 ไม่ได้มีอยู่ในเอ็มโอยูเช่นเดียวกัน