เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 17 ก.ค ร.ต.อ.อภิวัฒน์ พวกอินแสง รอง สว.(สอบสวน) สน.ทุ่งครุ รับแจ้งเหตุ รมควันตัวเองเสียชีวิตภายในรถ หน้าบ้านเลขที่ 23/222 หมู่บ้านสินทวี 2 ซอย ประชาอุทิศ 76 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

 
ที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งยี่ห้อเชฟโรเลต รุ่นอาวีโอ สีดำ ทะเบียน ญก 120 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่หน้าบ้านหลังดังกล่าว ภายในรถบริเวณเบาะที่นั่งคนขับ พบศพ หญิง อายุ 54 ปี อาชีพขายหมูปิ้ง เสียชีวิตอยู่ ในลักษณะเบาะปรับเอนนอน สวมเสื้อยืดแขนสั้นลายดอกสีแดงนุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน และพบเตาอั้งโล่ ถูกจุดจนมอดแล้ว วางอยู่ที่พื้นรถฝั่งด้านข้างคนขับ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน 

สอบถาม นาย สุชาติ มาตพันธุ์ อายุ 62 ปี ข้าราชการสำนักงานเขต ทุ่งครุ ฝ่ายรักษาสิ่งแวดล้อม สามีของผู้ตาย กล่าวว่า ตนและภรรยา อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 122/223 ซึ่งอยู่ติดกัน แต่อาศัยจอดรถ ที่บริเวณหน้าบ้านหลังนี้เนื่องจากเจ้าของบ้านไม่อยู่ ปกติแล้วช่วงเวลา 4:00 น ของทุกวัน ตนและภรรยารวมถึงลูกชาย จะตื่นมาช่วยกัน เตรียมอุปกรณ์ขึ้นรถ จยย.พ่วงข้างไปเร่ขายหมูปิ้ง แต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กลับไม่พบภรรยา จึงออกตามหา และพบว่า ภรรยา เสียชีวิตอยู่ภายในรถ สำหรับสาเหตุนั้นเชื่อว่าผู้ตาย มีความเครียดสะสมจากปัญหาด้านสุขภาพ รวมถึงความกังวลใจ เกี่ยวกับเรื่องคดีความ เนื่องจากเมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว ขณะที่ภรรยากำลังขี่รถ จยย.พ่วงข้าง นำหมูปิ้งออกไปขาย ได้เกิดอา สัญญาณกันขโมยดังทำให้เสียงแตรดังลั่นไปทั้งหมู่บ้าน การวูบหมดสติ ทำให้รถของภรรยาไหลไปชน ขับรถกระบะ ของคู่กรณีจนไฟท้ายแตก ซึ่งภรรยากังวลเรื่องการเป็นคดีความ เพราะหลังเกิดเหตุคู่กรณีก็ไม่ได้ติดต่อกลับมา


มีรายงานว่าระหว่างที่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจรวมถึงหน่วยกู้ภัย กำลังจะนำร่างผู้ตายลงจากรถมาชันสูตร ปรากฏว่ามี เจ้าข้าวปั้น สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน เพศเมีย ที่ผู้ตายเลี้ยงเอาไว้ตั้งแต่เล็ก ได้วิ่งออกจากบ้านกระโดดขึ้นนั่งทับตักผู้ตายบนรถ จังหวะนั้นปรากฏว่า สัญญาณกันขโมยเกิดดังขึ้นทำให้เสียงแตรดังลั่นไปทั้งหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงลองใช้วิธีปิดประตูรถ เพื่อให้สัญญาณกันขโมยหยุดทำงาน แต่ปรากฏว่าประตู รถทั้ง 4 บานเกิดล็อคเองอีก จนสามีผู้ตายต้องนำกุญแจรีโมทมาปลดล็อคให้เจ้าหน้าที่ทำงานต่อได้อย่างสะดวก

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะมอบร่างผู้ตาย ให้แพทย์นิติเวชดำเนินการผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนเอกสารให้ญาติเดินทางไปรับศพเพื่อนำมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป.