วันที่ 16 ก.ค2566 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พร้อมเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาล หากไม่ผ่านโหวตนายกรัฐมนตรีรอบสองในวันที่ 19 ก.ค.เข้าใจว่านายพิธาอาจมีความคลาดเคลื่อน เพราะจากการหารือของตัวแทนทั้งสองพรรคยังคงมีความเห็นต่าง ที่แต่ละพรรคยังสงวนความคิดเห็นไปหารือภายในกันก่อน แล้วค่อยไปหารือกับ 8 พรรคร่วมที่เดิมกำหนดเป็นเช้าวันที่ 18 ก.ค.แต่เปลี่ยนมาเป็นเย็นวันที่ 17 ก.ค. ก่อนที่ทั้งสองพรรคจะนำความเห็นมาหารือกันอีกครั้งเพื่อกำหนดเป็นแนวทางโหวตนายกรัฐมนตรีวันที่ 19 ก.ค.

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนที่มีหลายฝ่ายออกมาตั้งข้อสังเกตว่าถือเป็นการเสนอญัตติตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อที่ 41 หรือไม่ เพราะการเสนอญัตติซ้ำในสมัยประชุมเดียวกันไม่สามารถทำได้ เรื่องนี้ประธานรัฐสภาจะเป็นผู้วินิจฉัย หรือให้ที่ประชุมลงมติหาทางออกร่วมกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงทั้งสองแนวทาง หากสามารถเสนอชื่อนายพิธาได้ พรรคเพื่อไทยพร้อมสนับสนุนนายพิธา แต่นายพิธาก็ต้องตอบให้ชัดว่าสมรภูมินี้จะสู้ถึงที่สุดเมื่อไหร่ เพราะคะแนนที่ออกมาจากการโหวตครั้งแรกเห็นชัดเจนว่าการจะไปถึง 376 เสียง  โดยเสียง ส.ว.จะไปถึง 64 เสียง หรือไม่ต้องตอบให้ได้ว่าจะนำมาจากไหน จะมีโอกาสสำเร็จหรือไม่ นอกจากนี้จะมีซีกรัฐบาลเดิมจะเสนอชื่อลงแข่งหรือไม่ ประเด็นที่ต้องได้คำตอบที่ชัดเจนก่อนจะโหวตในวันที่ 19 ก.ค.

เมื่อถามว่า หากไม่เสนอชื่อนายพิธา 8 พรรคร่วมจะเสนอชื่อใคร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องให้ได้ความชัดเจนก่อนว่าจะเสนอชื่อนายพิธาหรือไม่ หากเรายังไม่ได้ข้อสรุป การคิดอะไรต่อจะเป็นการขยายประเด็นไปเรื่อยๆ

เมื่อถามถึง กรณีที่พรรค ก.ก.ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เพื่อปิดสวิตช์ส.ว. นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย เคยยื่นแก้ไขมาตรานี้ไปแล้ว 2 ครั้งโดยไม่ผ่านการพิจารณา และตอนนั้นพรรคก้าวไกลเองก็งดออกเสียง ซึ่งที่ผ่านมามีการเสนอเรื่องนี้ 6-7 ครั้งแต่ก็ไม่ผ่านทั้งหมด เหตุใดจึงมาผลักดันเรื่องนี้ในช่วงนี้ พรรคมองว่าไม่ใช่เรื่องด่วนที่ต้องทำตอนนี้เพราะทราบผลอยู่แล้วว่าไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องมีเสียงฝ่ายค้านสนับสนุน 20% ตอนนี้ยังไม่มีฝ่ายค้าน และต้องได้เสียง ส.ว. 1 ใน 3 ของสมาชิก ส.ว. หรือ 84 เสียง จะหามาจากไหน

"มองว่าเป็นการเสนอเพื่อเป็นสัญลักษณ์เท่านั้น เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญเราไม่เห็นด้วยกับการเสนอรายมาตราเพราะเคยทำมาแล้ว เราจึงทำเป็นนโยบายในการหาเสียงว่าหากได้เป็นรัฐบาลการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรก จะนำเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อทำประชามติ ตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เชื่อว่าจะเสร็จสิ้นใน 1-2 ปี ทั้งนี้ หากเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ของพรรค ก.ก.เข้าสภา พรรคจะงดออกเสียง แต่อยากให้โฟกัสเรื่องจัดตั้งรัฐบาล เพราะปัญหาประชาชน การฟื้นฟูเศรษฐกิจชัดเป็นเรื่องที่รอไม่ได้" นายภูมิธรรม กล่าว