วันที่ 15 ก.ค.66 เวลา 15.40น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  เปิดเผยความคืบหน้าคดีการฆ่าหันศพ นายฮันต์ ปีเตอร์  ว่า วันนี้ญาติมาของคุณติดต่อเรื่องการรับศพ  หลังจากที่มีการจับกุมตัวคนร้าย  และได้ทรัพย์สินคืน  ทางญาติก็สบายใจขึ้น  เพราะที่ผ่านมาผู้เสียหายอาจจะไม่เชื่อมันตำรวจ  แต่จอนนี้เราได้แสดงให้เห็นว่าสามารถจับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้ทั้งหมด  โดยสัปดาห์หน้าจะให้ ผกก.หนองปรือ  ผกก.พัทยา ผกก.เมืองชลบุรี ส่งรายชื่อกลุ่ม แก๊งขบวนการเหล่านี้ใช่ชีวิตที่ไหน  มีพฤติกรรมกินเที่ยวย่านใด  ซึ่งแก๊งเหล่านี้อยู่เฉพาะกลุ่ม ไม่กินเที่ยวกับแก๊งอื่น  เช่น แก๊งนายโอราฟ ที่ประเวศ ซึ่งอยู่ในคลับ out law ก็จะกินเที่ยวเฉพาะกลุ่ม  ทั่วโลกรู้จักกันดี  ยืนยันว่าที่ผ่านมาตำรวจได้ข้อมูลจากชาวบ้านจึงสามารถจับกุม กลุ่มผู้ต้องหาเหล่านี้ได้ ถือว่าประชาชนเป็นนักสืบที่ดี  ซึ่งถ้าชาวบ้านมั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ชาวบ้านจะทำข้อมูลที่มีส่งมาให้เจ้าหน้าที่ ทำงานง่ายขึ้น  ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นพัทยา ภูเก็ต  สมุย  หรือสถานที่ ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก หากมีการทำผิดกฎหมาย ก็สามารถส่งข้อมูลให้ตำรวจได้ 24 ชม. 

โดยในวันนี้ทางญาติได้นำข้อมูลการทำวีซ่าผิดกฎหมายมามอบให้กับคณะทำงาน ซึ่งขบวนการนี้มรการร่วมมือกันระหว่างพลเมือง และตำรวจ ตม.พัทยา โดยต่างชาติที่เจ้ามาให้ลักษณะนี้จะเข้ามาด้วยวีซ่า รีไทด์เม้น  โดยจะต้องมีเงินในบัญชี 8 แสนบาท  เมื่อเข้ามาแล้ว  ต้องการที่จะอยู่ในประเทศไทยต่อ  ก็จะให้วิธีการไปกูเงินจากนายหน้ามาใส่บัญชี  เพื่อไปแสดงกับ ตม. ขอต่อวีซ่า  เมื่อต่อเรียบร้อยแล้วก็จะนำเงินไปคืนให้กับนายหน้าเงินกู้โดยยอมเสียดอกเบี้ย  ซึ่งการทำแบบนี้เจ้าหน้าที่ต้องมีส่วนรู้เห็น  แต่ในคดีนี้ทางญาติเพิ่งจะนำข้อมูลมาให้ จึงต้องขอตรวจสอบก่อน แต่ถ้าหากพบก็จะดำเนินคดีแยก ออกเป็นอีกคดีหนึ่ง 

หลังจากนี้ตำรวจต้องตรวจสอบเบื้องลึกเบื้องหลังวีซ่าของนายโอราฟ แงะนางเพธา ว่าได้วีซ่ามาด้วยวิธีการใด  และต้องเน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ ตม.ให้การสกรีนคนเข้าประเทศ  อย่างเช่นบางคนมีรอยสัก สัญลักษณ์แก๊งยาเสพติด ซึ่งทั่วโลกรู้กันหมด  แต่ทำไม่ที่ไทยถึงไม่รู้ มันเป็นไปไม่ได้


ส่วนการดำเนินคดีกับแก๊งอุ้มฆ่าหันศพนายฮันต์ ปีเตอร์ ได้มีการจับกุมผู้กระทำความผิดได้ทั้งหมดแล้ว รวม5คน  4คนให้การปฏิเสธ  ส่วนเจ้าบ้านเช่าให้การรับสารภาพ  นอกจากนี้หลังกฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งDNA ลายนิ้วมือ ก้นบุหรี่  รวมทั้งร่างของผู้เสียชีวิต  ก็มีความเชื่อมโยงกัน  ซึ่งมูลเหตุก็มาจากการประสงค์ต่อทรัพย์ โดยมีนางเพธา เป็นนกต่อและมีนายโอราฟเป็นตัวการในการสั่งการทั้งหมด ไม่มีเบื้องหลังคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง 


สำหรับนายโอราฟเชื่อได้ว่าก่อนหน้านี้อาจจะมีพฤติกรรมฆ่าชาวต่างชาติ ไม่ใช่เฉพาะชาวเยอรมันเท่านั้น  แต่บัคคลเหล่านั้นอาจจะเป็นบุคตลที่กระทำผิดกฎหมายเช่นเดี่ยวกัน  ทำให้ทางญาติไม่มีการมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ซึ่งนายโอราพจะไม่กระทำกับคนไทย  เพราะเชื่อว่าหากกระทำจะอยู่ในประเทศไทยมิได้


ส่วน นายฮันต์ ปีเตอร์จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย และไม่มีเคยมีการทะเลาะเบาแว้งกับคนในครอบครัว และคนใกล้ชิด  ส่วนกระแสข่าวที่ว่ามีการว่างแผนจะนไศพนายฮันต์ ปีเตอร์ไปทิ้งทะเล ในส่วนนี้ยังไม่มีข้อมูล  แต่เชื่อว่ากระบวนการฆ่า จะต้องมีการนำศพไปทำลาย ซึ่งการเอาศพไปทิ้งทะเลก็มีความเป็นไปได้  


ทางด้านภรรยาของนายฮันต์ ปีเตอร์ และบุตรชาย เปิดเผยว่ารู้สึกพอใจกับการทำงานของตำรวจที่รวดเร็ว  และทำให้เราได้เจอกัน  เรื่องกระบวนการที่ทำให้สามีตายตนไม่ติดใจแล้ว  เหลือแต่ กระบวนการออกวีซ่าให้กับกลุ่มผู้ต้องหา ว่ากลุ่มคนเหล่านี้สามารถอยู่และก่อเหตุในลักษณะนี้ได้อย่างไร