วันที่ 15 ก.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรณวริทธิ์ ปริยฉัตรตระกูล สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวรณวริทธิ์ ปริยฉัตรตระกูล เป็นจดหมายถึงลูก และต่อด้วยชี้แจงถึงเหตุผลที่ ‘งดออกเสียง’ ในการโหวต นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตพรรคก้าวไกล

โดยข้อความในจดหมายถึงลูก ระบุว่า

“13/07/66

ถึงลูกรักของพ่อ และเพื่อนเพื่อนทุกคนของลูก

ตามที่ลูกมีความวิตกกังวลในระดับสูงเกี่ยวกับการเลือกนายกรัฐมนตรีที่จะโหวตกันในวันนี้ เพราะหากพ่อไม่เลือกคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ลูกจะโดนต่อต้าน และเพื่อนเพื่อนจะเลิกคบกับลูก บางครั้งถึงอาจต้องมีเรื่องราวต่างๆ นานาที่ไม่พึงประสงค์กับลูก ข้อนี้พ่อวิตกกังวลยิ่งนัก เพราะลูกคือแก้วตาดวงใจของพ่อ

ลูกครับ บอกเพื่อนเพื่อนของลูก ทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย ไปเลยว่า พ่อเป็นนักเรียนทุนภูมิพลที่เรียนในระดับปริญญาตรี นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ เพราะหากไม่มีทุนภูมิพลในวันนั้น ก็จะไม่มีพ่อในวันนี้ และก็จะไม่มีลูกเช่นเดียวกัน และพระมหากรุณาธิคุณอีกมากมายล้นพ้น ที่พระมหากษัตริย์ทรงมีต่อประเทศชาติบ้านเมืองจนสุดที่พ่อจะบรรยายได้ ครอบครัวของพวกเราเทิดทูนองค์พระมหากษัตริย์ไว้เหนือเกล้า ผู้ใดจะแตะต้องมิได้

ดังนั้นหาก คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกลมีนโยบายไม่แตะต้องมาตรา 112 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 แล้ว พ่อก็ไม่มีข้อรังเกียจในตัวบุคคลและตัวพรรคที่จะไม่เลือกบุคคลดังกล่าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่หากตราบใดที่บุคคลดังกล่าวพรรคดังกล่าว ยังมีแนวนโยบายที่จะล่วงละเมิดองค์พระมหากษัตริย์ โดยการยืนยันว่าจะแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งก็เท่ากับเป็นการล่วงละเมิดองค์พระมหากษัตริย์ พ่อไม่สามารถที่จะเลือกเขาเป็นนายกรัฐมนตรีได้

ลูกครับ หากเพื่อนลูกไม่เข้าใจในเหตุผลของครอบครัวเรา ไม่เข้าใจในเหตุผลของความเป็นเรา ความเป็นวุฒิสมาชิกของพ่อ เค้าจะใช้วิธีการบีบบังคับหรือใช้วิธีการรุนแรงใดใดก็แล้วแต่ ก็แสดงว่าเค้าจะบังคับให้เราทำตามที่เขาต้องการ แม้จะต้องล่วงละเมิดองค์พระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของครอบครัวเราแล้ว ก็จงอย่าได้แยแสและแคร์ที่จะรับเค้าเป็นเพื่อน หากเพื่อนๆ เข้าใจในความเป็นเรา และจงรักภักดีต่อองค์พระมหากษัตริย์และแผ่นดินเกิดแล้ว จงนับเค้าเป็นกัลยาณมิตรเกื้อกูลไปจนตลอดชีวิตของลูก จะเป็นสิริมงคลต่อชีวิตยิ่ง

หากเขาเป็นนักประชาธิปไตย เค้าต้องยอมรับในความเห็นต่าง และเคารพในความเป็นเพื่อน ถ้าเค้าทำไม่ได้ก็เท่ากับเค้าเป็นโมฆะมิตร ให้ลูกจงจำไว้ และยึดมั่นในองค์พระมหากษัตริย์ของเรา ลูกจะเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับไปทั่ว เพราะความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี

พ่อขอให้กำลังใจกับลูกว่า อย่าได้ท้อแท้หรือท้อถอยกับอุปสรรคครั้งนี้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย พระสยามเทวาธิราชจงปกป้องคุ้มครองครอบครัวเราให้ร่มเย็นเป็นสุข เราได้ทำดีที่สุดแล้ว พ่อขอยืนยัน”

ส่วนข้อความถึงประชาชนระบุว่า...

“เรียนพี่น้องชาวร้อยเอ็ด และชาวไทยทั่วประเทศ

ผมชัดเจนมาตั้งแต่ต้นว่า ผมจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และหยิ่งในศักดิ์ศรีนักเรียน ‘ทุนภูมิพล’ และ ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน

ผมไม่ได้มีปัญหากับคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผมชื่นชอบนโยบายหลายข้อของพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะด้านยาเสพติด และปราบปรามทุจริต ตลอดจนปลดล๊อคสุราชุมชน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดและอุดมการณ์ของผม

ผมได้แจ้งเรื่องขอให้ยุติการก้าวล่วงมาตรา112 มาโดยตลอด และได้รับการปฏิเสธมาโดยตลอด

ดังนั้น เพื่อพิทักษ์รักษาไว้ซึ่ง “ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน” โดยส่วนรวม กระผมจึงได้ “งดออกเสียง” ครับ”

ขอบคุณข้อมูล/ภาพ : เฟซบุ๊กรณวริทธิ์ ปริยฉัตรตระกูล