"ชลน่าน” ยัน พท.ดัน “พิธา” เป็นนายกฯ รอบสอง แจงยังไม่คิดเสนอชื่ออื่นแข่ง ย้ำไม่มียามของคำว่าหนุนถึงที่สุด ชี้ “ปิยบุตร” เป็นผู้นำจิตวิญญาณ ขึ้นกับ ก.ก.จะเป็นฝ่ายค้านตามสั่งหรือไม่
วันที่ 14 ก.ค.66 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีโหวตนายกรัฐมนตรี รอบสอง จะมีการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แข่งว่า ถ้ามีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง สิ่งที่เรามีข้อห่วงใย คาดการณ์ว่าเสียงโหวตที่จะโหวตให้คู่แข่งเรา อาจจะเกิดผลสัมฤทธิ์ขึ้นมาทันที จาก 188 เสียงถ้าเขาแพ็กกันแน่น บวกกับเสียงส.ว. มีโอกาสที่เสียงจะเกิน 375 เสียงได้
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทย จะเสนอนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกล ต่อหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคพท.ยังเคารพสิทธิของพรรคก้าวไกลที่เป็นพรรคอันดับหนึ่ง และเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอยู่ในขณะนี้ ส่วนจะดันหรือไม่นั้นขึ้นกับพรรคก้าวไกล ที่จะเป็นผู้เสนอในระหว่างวงพูดคุยระหว่างพรรคก.ก.และพรรคพท. รวมทั้งวงของ 8 พรรคร่วมรัฐบาล
เมื่อถามว่าดูแล้วเสียง ส.ว.น่าจะโหวตให้ยาก นพ.ชลน่าน กล่าวว่า “ไม่มีอะไรง่ายหรอก โดยเฉพาะการเมืองที่ไม่ปกติแบบนี้ มันคงเป็นประเด็นที่ 8 พรรคร่วมต้องมาคุยกัน ว่าจะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้อย่างไร รู้อยู่แล้วว่าถ้าโหวตเลือกนายกฯ อีกครั้งในวันที่ 19 ก.ค. โดยที่เราไม่มีหลักหรือความมั่นใจ แล้วมีคนแข่งแล้วเรามีโอกาสแพ้ ก็ต้องมาปรึกษาหารือกันว่าจะทำอย่างไร”
เมื่อถามว่าในการพูดคุยกับพรรคก.ก. จะมีโอกาสเปลี่ยนแคนดิเดตนายกฯ ในการโหวตครั้งที่ 2 หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า อยู่ที่ข้อเสนอของการพูดคุย เมื่อถามอีกว่าถ้าพรรคก.ก.ยังเสนอชื่อนายพิธา พรรคพท.จะแสดงท่าทีอย่างไรนพ.ชลน่าน กล่าวว่า “ก็เป็นสิทธิของพรรคก้าวไกล ที่เป็นพรรคอันดับหนึ่งและเป็นพรรคแกนนำ พท.ลงเอ็มโอยูชัดเจนว่าจะสนับสนุนจนสุดความสามารถ ยืนยันอยู่แล้วครับ”
เมื่อถามว่าถึงเวลาสำหรับพรรคอันดับสองแล้วหรือยัง เพราะพรรคอันดับหนึ่งดูจะไม่ได้เสียงสนับสนุน นพ.ชลน่านกล่าวว่า ตนเชื่อว่า 8 พรรคร่วมจะคำนึงถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น ถ้าการโหวตนายกฯ ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ไม่ใช่ชื่อนายพิธาเป็นชื่ออื่นที่ไม่ได้อยู่ใน 8 พรรคร่วม ความคาดหวังของพี่น้องประชาชนจะถูกทำลายทันที
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่าในการโหวตนายกฯ ครั้งที่ 2 ทางพรรคร่วมจะเสนอชื่ออื่น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่มีคำว่าอาจจะ อยู่ที่การพูดคุย
เมื่อถามต่อว่าหากสองพรรคพูดคุยจบแล้ว จะเป็นที่แน่ชัดหรือไม่ว่า 8 พรรคร่วมจะเสนอชื่อใครชิงตำแหน่งนายกฯ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ต้องรอสรุปก่อน ถ้าเราไม่ชัดเจน วันที่ 19 ก.ค.ก็มีเจตนาชัดแล้วว่าอีกฝ่ายจะเสนอชื่อแข่ง ก็จะเป็นกับดักให้เรายอมรับกับความพ่ายแพ้ เหมือนเราเอาความหวังประชาชน 25 ล้านเสียงไปทลายตรงนั้น เชื่อว่าประชาชนรับไม่ได้
เมื่อถามว่าฉันทามติของประชาชนต้องการให้ 8 พรรคร่วมเป็นรัฐบาลหรือให้นายพิธาเป็นนายกฯ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า นายพิธาเป็นหัวหน้าพรรคอันดับหนึ่ง เป็นผู้รวบรวมเสียงได้ 312 เสียง ในเชิงสัญลักษณ์ก็เหมือนประชาชนสนับสนุนเขา เมื่อทุกฝ่ายรวมกันก็เหมือนเป็นการสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ
เมื่อถามว่าคำว่าจะสนับสนุนจนถึงที่สุด นิยามของคำว่าที่สุดคืออะไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า คำว่าที่สุดไม่มีนิยาม มันขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ ความเป็นเหตุเป็นผล ความเสียหาย และโอกาสของประเทศชาติบ้านเมือง รวมๆ กันทั้งหมดนั่นแหละ ถ้าเราทำถึงที่สุดแล้วพรรคก.ก.พึงพอใจ เห็นชอบภาพรวมแล้วไม่ส่งผลกระทบ ถึงจะเป็นนิยามของคำว่าถึงที่สุด
เมื่อถามย้ำว่าจะให้โอกาสนายพิธาเป็นครั้งที่ 2 หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุย พรรคเพื่อไทย ก็ยังหนุนนายพิธา เมื่อมีการพูดคุยก็จะเป็นไปตามข้อสรุปร่วมกัน
เมื่อถามถึงท่าทีของพรรคเพื่อไทย กรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาฯ คณะก้าวหน้าโพสต์เฟซบุ๊กเสนอแก้มาตรา 272 รวมทั้งให้พรรคก.ก.เป็นฝ่ายค้าน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า “ก็เป็นความเห็นของผู้นำทางจิตวิญญาณของทางก.ก. ส่วนจะปฏิบัติหรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่เราไม่มีข้อผูกมัดอะไรในกาที่จะเป็นฝ่ายค้านหรือไม่เป็นฝ่ายค้าน เพราะประชาชนเสียงข้างมากเลือกให้มาเป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล ไม่ได้เลือกเราให้มาเป็นฝ่ายค้าน"
เมื่อถามอีกว่านายปิยบุตรระบุอีกว่าต้องยอมไปเป็นแกะดำ เพื่อให้อีก 4 ปีข้างหน้าจะได้คะแนนเสียงมากกว่านี้ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็แล้วแต่ความเห็น ไม่ขอวิจารณ์
เมื่อถามถึงกรณีที่ ส.ว.ระบุว่าถ้ามีพรรคก.ก.อยู่ร่วมรัฐบาล ส.ว.จะก็ไม่สนับสนุน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นเพียงความเห็นของ ส.ว.บางคน เมื่อถามต่อว่าข้อเสนอแก้มาตรา 272 ของพรรคก.ก.จะยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับ ส.ว.หรือไม่นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ต้องไปถาม ส.ว.ว่าพอใจหรือไม่