วันที่ 14 ก.ค.2566 นายสมชาย แสวงการ ส.ว. เปิดเผยว่า ขณะนี้ ส.ว. หลายคน กำลังรวบรวมหลักฐานที่มีบุคคลอื่น มาบูลลี่ตนเองและครอบครัว เพื่อแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเฉพาะในการประชุมรัฐสภา เมื่อวานนี้ (13 ก.ค.) ในการลงมติโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย เพราะถือเป็นการคุกคาม ซึ่งถือว่าเลวร้ายกว่าในอดีต เป็นวิธีการที่สกปรก ชั่วช้า และเลวทราม คนที่เห็นต่างก็เข้าไปบูลลี่เขาหมด ทั้งตามโรงเรียน มหาวิทยาลัย และครอบครัว ดังนั้นส.ว.ประชุมกันแล้วว่าจะดำเนินคดีทั้งหมด และเบื้องต้นได้ส่งหลักฐานให้ปอท. แล้วทั้งหมด และขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งทีมกฎหมาย

นายสมชาย กล่าวว่า ขอเตือนบุคคลที่มีพฤติกรรมเหล่านี้ว่า ขณะที่คุณล้ำเลิศประชาธิปไตย แล้วเวลาติดคุกไม่ต้องมาขอโทษนะ เพราะไม่มีปล่อยฟรี ถูกดำเนินคดีจริงจัง แล้วอย่าลืมนะว่าเป็นนักกฎหมายทั้งนั้น ที่มาสนุกสนาน เล่นๆ กันแบบนี้ ดำเนินคดีหมด ตอนนี้ทุกคนเตรียมหลักฐานไว้หมดแล้ว จะเอาให้เต็มที่ต่างกรรมต่างวาระ ไม่ต้องออกจากคุกกันเลย ทำ 10 ครั้งก็ 10 กรรม 10 วาระ

นายสมชาย กล่าวอีกว่า จากนี้จะตรวจสอบทั้งหมดและย้อนหลังไป หากพบว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาทก็จะดำเนินคดีทั้งหมด เพราะถือว่าไม่เคารพคนอื่น ใครที่ไม่ทำตามคุณก็ไปตามคุกคามเขาหมด ฉะนั้นต้องดำเนินคดี ประชาธิปไตยของคุณเป็นประเภทไหน เป็นพวกโจราธิปไตยหรือไม่ ที่ผ่านมาตนเคยดำเนินคดีกับคนที่หมิ่นประมาทมาแล้ว บางคนร้องห่มร้องไห้เพราะต้องออกจากราชการ ตนก็ให้อภัยไปหลายคนแล้ว แต่หลังจากนี้จะไม่ให้อภัยแล้ว ขอเตือนให้หยุดทั้งหมด อย่าคิดว่าหาไม่เจอ ที่ผ่านมาถือว่าตนเป็นบุคคลสาธารณะ แต่จากนี้จะเริ่มนับหนึ่งในการดำเนินคดี เพราะคุณไม่ได้ใช้สิทธิเสรีภาพ แต่เป็นการใช้สิทธิคุกคามคนอื่นมีความผิดทางอาญา

"ดังนั้นตอนนี้ใครอยากถล่มผมก็มาเลย รับรองได้เลยพวกที่มีทัวร์ลงสนุกแน่ ขอเตือนว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่จะไปคุกคามคนอื่น ส.ว. มีหน้าที่ที่ต้องทำ เช่นเดียวกันกับส.ส. หน้าที่ใครหน้าที่มัน เหมือนกับประชาชนที่มีหน้าที่ไปเลือกตั้ง ซึ่งตอนนี้หน้าที่เสร็จสิ้นแล้ว ตอนนี้เป็นเรื่องพรรคการเมืองที่ต้องไปจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นการใช้สิทธิ์ของประชาชนไปหมิ่นประมาทคนอื่นย่อมได้รับผลตามกฏหมาย ยืนยันส.ว. ไม่ปล่อยเรื่องนี้แน่ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลัง ปั่นกระแส หากสืบไปถึงตัวกลางก็จะดำเนินคดีไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองคนไหนจะดำเนินคดีด้วยนายสมชาย กล่าว