เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 14 ก.ค. 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้นำพวงมาลัยมากราบสักการะท้าวมหาพรหมบนตึกไทยคู่ฟ้า และศาลพระภูมิ ศาลตาศาลยาย เพื่อกราบลาหลังจากปฏิบัติหน้าที่โฆษกฯและได้ถือโอกาสลาข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ที่ได้ทำงานร่วมกัน และเก็บของที่ยังเหลืออยู่กลับ 

 

จากนั้นนายอนุชา ให้สัมภาษณ์ถึงการโหวตนายกรัฐมนตรีวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า พรรครัฐบาลปัจจุบันที่โหวตไม่เห็นชอบ ได้มีการพูดคุยกันแล้วถึงแนวทางในการโหวตที่ไม่เห็นชอบว่ามีเหตุผลใด เพราะฉะนั้นหวังว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล คงจะได้รับฟังถึงเหตุผลนั้นแล้ว อย่างไรก็ตามเห็นนายพิธา ลุกขึ้นบอกว่ายินดีที่จะรับฟัง ตนก็หวังว่านายพิธาจะรับฟังจริงๆไม่ใช่เพียงแค่ได้ยิน เพราะสิ่งที่พรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรคได้มีเอ็มโอยูกันไว้ จะมีแนวทางอย่างไรต่อไปในอนาคตโดยเฉพาะเกี่ยวกับมาตรา 112 ซึ่งหากนายพิธาและพรรคก้าวไกลได้รับฟังจริงๆจะเห็นว่าการแก้ไขมาตรา 112 เราไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว ถ้ายังยืนยันที่จะแก้ไขเราก็ยังไม่เห็นด้วยเช่นเดิม 

 

เมื่อถามว่า ในครั้งหน้าถ้ามีการโหวตอีกรวมไทยสร้างชาติยังคงยืนยันไม่โหวตให้เหมือนเดิมใช่หรือไม่นายอนุชา กล่าวว่า ขอดูแนวทางที่พรรคก้าวไกลจะเสนอต่อไปก่อนดีกว่า ที่ผ่านมาเราไม่ได้ตั้งเงื่อนไขว่าจะเป็นอย่างไร แต่เราแสดงจุดยืนชัดเจนที่จะไม่หนุนพรรคที่แก้มาตรา 112 และจะไม่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งก็อยู่ที่นายพิธาว่าจริงๆแล้วได้ฟังหรือเปล่า เพราะได้ยินนายพิธาบอกว่าจะเป็นคนฟังเหตุและผลฟังเสียงของประชาชน ดังนั้นการรับฟังที่นำไปประมวลและไตร่ตรอง และการได้ยินแต่อาจจะเฉยๆไม่ได้นำไปพิจารณาหรือวิเคราะห์ต่อไปด้วย

 

เมื่อถาม กรณีพรรคก้าวไกลเสนอจะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เพื่อปิดสวิตช์สว.ในการโหวตเลือกนายกฯ นายอนุชา กล่าวว่า เรื่องนี้เดี๋ยวคงต้องว่ากันอีกทีหนึ่งในพรรค ซึ่งพรรคจะมีการพูดคุยกันทุกสัปดาห์อยู่แล้วว่าสถานการณ์ปัจจุถบันมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงบ้าง และพรรคควรแสดงท่าทีอย่างไร ส่วนในพรรคร่วมรัฐบาลเดิมเดี๋ยวรอดูว่าจะมีการพูดคุยกันอย่างไร