ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ฟิลลิปประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศแต่งตั้ง นายปวินทวัฒน์ วีร์วรงค์กุล ดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ/บริหาร สายงานการขาย เพื่อทำหน้าที่ในการวางเป้าหมายกลยุทธ์ขับเคลื่อนการเติบโตของช่องทางตัวแทนประกันชีวิตของบริษัทฯ
                     

นายปวินทวัฒน์ วีร์วรงค์กุล มีประสบการณ์ในธุรกิจประกันชีวิตมากกว่า 20 ปี เชี่ยวชาญด้านการวางกลยุทธ์การบริหารงานสรรหาตัวแทน และพัฒนาขีดความสามารถและทักษะใหม่ ๆ รองรับการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ ก่อนที่จะก้าวมาดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ/บริหาร สายงานการขายกับฟิลลิปประกันชีวิต  ได้ดำรงตำแหน่งในบริษัทประกันชั้นนำหลายแห่ง อาทิ ตำแหน่งรองประธานบริหารงานขายช่องทางตัวแทน อีกทั้งยังเคยเข้าร่วมการอบรมด้านการพัฒนาความรู้ ทักษะความเป็นผู้นำ กับ Asia Leadership Foundation Program ซึ่งมูลนิธิเอเชีย (Asia Foundation) เป็นองค์กรพัฒนาระหว่างประเทศที่ไม่แสวงผลกำไร  ซึ่งมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตในภูมิภาคเอเชียที่มีการพัฒนาและเติบโตอย่างรวดเร็ว โปรแกรมนี้มุ่งสร้างความเป็นผู้นำที่ก้าวล้ำในเอเชีย โดยการเสริมสร้างทักษะการเป็นผู้นำแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จระดับสูงและศักยภาพที่โดดเด่นอย่างมืออาชีพ ผนวกกับการให้ความรู้ในเชิงลึกเกี่ยวกับความ     ท้าทายในการพัฒนาที่สำคัญของเอเชีย
                     

"ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของฟิลลิปประกันชีวิต ซึ่งผมจะนำเอาความรู้ ความเชี่ยวชาญ ตลอดจนความเข้าใจในธุรกิจประกันชีวิตมาช่วยสานต่อแผนยุทธศาสตร์ โดยตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาองค์กรสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน และยุทธศาสตร์สำคัญในการนำมาซึ่งการเติบโตของเบี้ยประกันภัยในช่องทางตัวแทนปีนี้ เน้นการขยายฐานตลาดให้เข้าถึงกลุ่มคนระดับวัยทำงานเพิ่มมากยิ่งขึ้น แนวคิดที่ต้องการให้ประชาชนทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญในการเตรียมความพร้อมเพื่อสร้างหลักประกันความมั่นคงให้กับชีวิตหลังเกษียณ โดยหากมีการเก็บออมตั้งแต่อายุยังน้อย จะมีระยะเวลาในการเก็บออมนาน อีกทั้งยังเน้นการสร้างและขยายทีมงานตัวแทนที่มีศักยภาพสูง แน่นอนว่านอกจากบริษัทฯ จะมีผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างและตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าแล้ว บริษัทฯ ยังต้องมีทีมงานฝ่ายขายที่มีศักยภาพสูงในการเข้าถึงฐานตลาดลูกค้าที่มีกำลังซื้อมุ่งเน้นการฝึกอบรมตัวแทนอย่างเข้มข้น ด้วยการเสริมสร้างความรู้และทักษะในการขาย    เพื่อยกระดับขีดความสามารถและภาพลักษณ์ตัวแทนให้ก้าวสู่มืออาชีพ รวมทั้งโครงสร้าง หรือวัฒนธรรมการทำงานและมอบผลตอบแทนให้อย่างเหมาะสม มีการจัดโครงสร้างผลประโยชน์ที่ดี สร้างโอกาสเติบโตได้ตลอดเวลาเพื่อเป็นกำลังใจสำหรับตัวแทนให้มีผลงานสม่ำเสมอ” นายปวินทวัฒน์ กล่าว  
                     

โดยภารกิจแรกหลังเข้ารับตำแหน่งนายปวินทวัฒน์ ได้ประกาศภารกิจอีก 6 เดือนข้างหน้าในการตั้งเป้าเพิ่มจำนวนตัวแทนอีก 300 คน จากปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 1,500 คน ตามวิสัยทัศน์ในปี 2566 ซึ่งเป็น “ปีแห่งการสร้างตัวแทน” พร้อมเป็นหัวเรือใหญ่ในการมุ่งสนับสนุนการพัฒนาตัวแทนฟิลลิปประกันชีวิต ให้สามารถเป็นที่ปรึกษาอย่างมืออาชีพที่ดี ในนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้านประกันชีวิตและสุขภาพที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุด อีกทั้งยังได้รับการฝึกฝนทักษะและได้รับความรู้ใหม่เพื่อยืนอยู่ในแถวหน้าของอุตสาหกรรมที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว พร้อมมุ่งเน้นสร้างประสบการณ์การเรียนรู้แบบองค์รวมให้แก่ตัวแทน เร่งสร้างผู้นำยุคใหม่ให้กับอุตสาหกรรมประกัน เพื่อส่งมอบหลักประกันชีวิตที่มั่นคง อันเป็นการวางรากฐานสู่การสร้างสังคมประกันชีวิตให้เติบโตอย่างยั่งยืน และมุ่งสู่การสร้างคุณภาพธุรกิจในระยะยาวต่อไป รวมถึงการเดินหน้าผสานความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจต่าง ๆ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งแก่ธุรกิจประกันชีวิต
                       

ทั้งนี้ฟิลลิปประกันชีวิตมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ประสบการณ์ของนายปวินทวัฒน์ ในด้านการบริหารงานขายช่องทางตัวแทน จะสามารถนำประสบการณ์และองค์ความรู้ต่าง ๆ มาช่วยพัฒนาสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
                     

 อนึ่ง   นายปวินทวัฒน์ จบการศึกษา มศว.ประสานมิตร  โดยเริ่มงานแรกเกี่ยวกับพัฒนาบุคลากร อยู่ที่เซเว่น-อีเลฟเว่น อยู่ได้ 6 ปี  จากนั้นมาทำงานบริษัทเอไอเอ  ด้าน Career  agent  จากนั้นได้ย้ายมาร่วมงานกับบริษัทเอเอซีพี(อยุธยาอลิอันซ์ประกันชีวิตในปัจจุบัน)  โดยร่วมงานได้ 6-7 ปี  ก็ย้ายมาอยู่บริษัทกรุงไทยแอกซ่าประกันชีวิต   และสุดท้ายมาอยู่ที่บริษัทฟิลลิปประกันชีวิต    
                       

ด้านนายธฤทธิ์ พรหมนาถ  กรรมการผู้จัดการ   บมจ.ฟิลลิปประกันชีวิต กล่าวว่า บริษัทคงจะมีการปรับตัวโครงสร้างผลประโยชน์ค่าตอบแทนใหม่ของตัวแทนที่เน้น  Productive  Agent   ซึ่งเราทำการบ้านเรื่องนี้อย่างหนัก   โดยหลักการของเราจะตรงไปตรงมา  โดยจะเน้นให้กับคนทำงานที่ขายมากก็ได้มาก  รวมทั้งผู้บริหาร หากบริหารดี มีตัวแทนเยอะ ขายได้มาก ก็ยิ่งได้มาก ซึ่งจุดนี้เราจะเอามาบริหารจัดการ  โดยอาจมีการจำกัดผลประโยชน์ให้กับตัวแทนที่ไม่มีผลงาน  อีกทั้งพยายามลดความซ้ำซ้อนในการบริหารของตัวแทน ซึ่งทุกวันนี้มีเลเยอร์หลายระดับ
                     

“ เรากำลังทำการบ้านตรงนี้อยู่ งานใหญ่ที่กำลังทำ  ผลประโยชน์ตัวนี้ ทำออกมาถึงจะดีที่สุด  เพื่อให้กับพนักงานตัวแทนอยู่ปัจจุบันกับเราอยู่แล้วและที่กำลังเข้ามาใหม่  พยายามจะหลีกเลี่ยงผลประโยชน์ที่เป็นการจ่ายที่มันไม่เกี่ยวข้องกับการทำงาน อาจจะต้องมีการปรับ   ผมไม่ได้บอกเอาออกนะ  แต่เพื่อให้สอดคล้องกับผลงานที่เกิดขึ้น  เพราะ ในอดีตฟิลลิปประกันชีวิตเมื่อ 3 ปีที่แล้ว จากเบี้ยไม่กี่ร้อย เราขยับขึ้นมาเบี้ยถึง 3 พันล้านบาท  พอสุดท้ายภูเขาน้ำแข็งทะลาย ดร็อปลงมา เบี้ยประกันใหม่ไม่ถึง 500-600 ล้านบาท  เพราะฉะนั้นการบ้านที่ผมชวนคุณปวินทวัฒน์เข้ามา   เพราะผมต้องการความสม่ำเสมอ และยั่งยืน  มากกว่า ที่จะโตแบบก้าวกระโดดแบบไม่มั่นคง  จริงๆแล้วใจผมอยากได้เบี้ยต่อคนไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นบาท  ถึง 8 หมื่น  ซึ่งก็มีคนมาเสนอตัวว่าจะทำให้ไปถึง 8 หมื่นเลย  แต่ปัญหาคือ ถ้าไปแล้ว มันไม่มั่นคง  3-4 เดือนแล้วพังทลาย  ผมบอกไม่เอา  แล้วเราก็มาสร้างรูปแบบใหม่ เพื่อให้เขาอยู่กับเราได้นานๆ น่าจะดีกว่า” กรรมการผู้จัดการ กล่าว  
                       

ต่อข้อถามที่ว่า มีการตั้งค่าเฉลี่ยผลงานของตัวแท่นของเราอยากได้เท่าไหร่นั้น ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กล่าวตอบว่า “วันนี้สิ่งที่เป็นปัญหาคือ มดงานเรามีจำนวนเยอะ  แต่ทำงานแล้วส่งงานให้เราจริงๆค่อนข้างน้อย เราพยายามจะกระตุ้นจุดนี้  เราคาดหวังว่า   เดือนหนึ่งทำได้ 1 หรือ 2 เคส  ได้ 3 หมื่นบาท น่าจะปรับมาได้ดีระดับหนึ่ง  และเราเน้นให้คนทำผลงานสม่ำเสมอ  ทุกเดือนต้องมีผลงานเข้าบริษัท โดยจะยึดหลักการสร้างตัวแทน active มากขึ้น”