เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 13 ก.ค. 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ภายหลังไม่ผ่านการลงมติโหวตเลือกนายกฯ ถึงเสียงสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) วันนี้ผิดคาดหรือไม่ว่า ผลที่ออกมาเรายอมรับ แต่ไม่ยอมแพ้ และยอมรับว่าเสียงมติไม่ถึง376 ได้เพียง 324 แล้วสาเหตุที่ออกมาเช่นนี้เพราะว่ามีการกดดัน ส.ว.เยอะ และที่ไม่มาประชุมอีก 40 กว่าคน จึงไม่ตรงตามที่เราคาดการณ์ไว้ และหลังจากนี้เราก็จะหาเวลาคิดยุทธศาสตร์เพื่อรวบรวมเสียงในการโหวตครั้งต่อไป ส่วนจะเป็นวันใดก็ขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภา และก็จะมุ่งหน้าเพื่อให้มีการโหวตนายกฯ ในครั้งที่สองต่อไป
เมื่อถามว่า ยังมั่นใจกับพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ว่าจะจับมือไปกันต่อ นายพิธา กล่าวว่า ผลออกมาเช่นนั้นเราก็ยังทำงานด้วยความเชื่อใจซึ่งกันและกัน
เมื่อถามว่า การโหวตครั้งหน้าจะต้องยอมถอยการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เราได้สัญญากับประชาชนไว้อย่างไร เราก็ทำอย่างนั้น ไม่ถอยมาตรา 112 แล้ววันนี้ก็เป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ได้อภิปรายเรื่องนี้ในสภา เพื่ออธิบายให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และ ส.ว. ที่ไม่เข้าใจตรงกันหรือคาดเคลื่อน จึงได้โอกาสชี้แจง ซึ่งถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี
เมื่อถามย้ำว่า ถ้าถอยเรื่องมาตรา 112 อาจจะได้เสียงเพิ่ม นายพิธา กล่าวว่า อาจจะเป็นอุปมาอุปไมย ที่ไม่ใช่เรื่องจริง อาจจะได้เสียงเพิ่มโดยเพราะไม่ได้เป็นเงื่อนไขดังกล่าว หลังจากนี้ขอเวลาทำใจในสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เสียก่อน ซึ่งตอนนี้ยังมีเวลา
เมื่อถามว่า จะมีแนวทางยุทธศาสตร์อย่างใดในการให้ได้เสียง ส.ว. ที่เพิ่มขึ้นหลังจากวันนี้ได้เพียง 13 เสียง นายพิธา กล่าวว่า ก็คงต้องมียุทธศาสตร์ในการรวบรวมเสียงในครั้งใหม่ต่อไป โดยอาจจะต้องลงในรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง เพราะบางคนได้ข่าวว่าไปต่างประเทศหรือบางคนไม่อยู่ บางท่านออกจากห้องประชุมไปก่อน แต่ที่พูดได้คือไม่ยอมแพ้ และจะใช้เวลานี้ในการปรับยุทธศาสตร์เพื่อรวบรวมเสียงใหม่ และตนขอขอบคุณ ส.ว. 13 ท่าน ที่กล้าหาญลงมติให้ตนเอง
เมื่อถามต่อว่า ถ้าการโหวตครั้งที่ 2 เป็นแบบวันนี้จะสู้ต่อหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ต้องวางแผนครั้งที่ 2 ให้เรียบร้อยก่อน
เมื่อถามว่า มีการเตรียมใจเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เตรียมใจ เตรียมแผน เตรียมสมอง เพื่อโหวตนายกฯในครั้งที่ 2
เมื่อถามว่า ระยะเวลาในการโหวตรอบ 2 กระชั้นชิด แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะชนะ นายพิธา กล่าวว่า ก็แล้วแต่ที่จะมอง ตนยังคิดว่ามีเวลา
เมื่อถามว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะยอมหรือไม่ นายพิธา กล่าวด้วยสีหน้าตึงเครียดว่า "ยังไม่ถึงเวลาตอนนั้น ตอนนี้ตนยังเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอยู่"
ผู้สื่อข่าวรายงาน เป็นที่น่าสังเกตว่าการตอบคำถามของนายพิธา มีสีหน้าไม่สู้ดี ไม่ยิ้มแย้มเหมือนที่ผ่านมา