วันที่ 13 ก.ค.66 ผศ.พรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษาเครือข่ายคนเสื้อแดงภาคอีสาน เปิดเผยว่า อยากฝากถึงม็อบรุ่นน้องในขณะนี้ ขอให้ทุกคนมีสติ การชุมนุมหรือการจัดกิจกรรมอย่าใช้อารมณ์ เพราะถ้าใช้อารมณ์ก็จะควบคุมพฤติกรรมตัวเองไม่ได้ มันก็จะเกิดความรุนแรงก็จะเกิดการยั่วยุตามมา ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าทหารมีการเตรียมตัววางแผนไว้แล้วทั้งหมด ซึ่งก็อาจจะดูสถานการณ์ว่ามันจะอันตรายหรือไม่ เพราะถ้าหากเกิดความรุนแรงขึ้น เขาเหล่านั้นก็พร้อมที่จะใช้ความรุนแรง และอ้างว่าเป็นความชอบธรรม
"หากจะไปขอให้ไปอย่างสงบ ไปให้กำลังใจ ไปปรบมือ แต่อย่าไปใช้กำลังไปกดดัน เพราะไม่เหมาะจะทำให้คนเข้าใจว่าเป็นอันธพาล เมื่อไปแล้วก็ขอให้มีลิมิต ไปเสร็จแล้วก็ควรกลับ ไปอย่างมีสติ อย่าให้เกิดสติจนควบคุมพฤติกรรมตัวเองไม่ได้ และฝ่ายก้าวไกลก็ควรคุมเกมส์นี้ให้ได้อย่าให้บานปลาย เพราะถ้าเกิดความรุนแรง บานปลายเกิดขึ้น และทหารอ้างความรุนแรงออกมาปฏิวัติ ก็จะเป็นการยึดอำนาจ สืบทอดอำนาจ หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจริง เราจะตำหนิพรรคก้าวไกล ที่เป็นต้นเหตุเชิญทหารมายึดอำนาจ ซี่งอาจจะไม่ถูกใจ แต่สิ่งนี้คือความจริง ที่ก้าวไกลจะต้องมาคุมม็อบตัวเองไม่ให้บานปลาย"
ผศ.พรรณวดี กล่าวต่ออีกว่า การชุมนุมหรือการจัดกิจกรรมทางการเมืองเคยผ่านมาหมดทุกสนามที่เป็นการชุมนุมกลุ่ม นปช. และเหตุการณ์ที่ทุกคนเสื้อแดงไม่เคยลืมคือเมื่อปี 53 คนเสื้อแดงพร้อมใจกันกรีดเลือดแล้วเทลงบนพื้น เพื่อแสดงออกในทางการเมืองว่าประชาชนยอมเสียสละเลือดตัวเอง เพื่อขับไล่เผด็จการ ในยุคนั้น แต่กลับถูกพวกคนเหล่านั้นเอาปืนออกมายิงประชาชน และมาถึงตอนนี้จึงมีความน่าเป็นห่วงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นึกถึงเพลงของคุณอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ที่แต่งเอาไว้แต่ถูกแบนและเบี่ยงเบนทำนองออกไปนั่นคือเพลง ตะโกนบอกฟ้า เนื้อเพลงที่เข้ากับเหตุการณ์ระบุว่าออกจากบ้านมา แค่เพียงมือเปล่า จิตใจเพริสพราว รักความเป็นธรรม นำศรัทธา สัญญา ออกย้ำ จะนำความจริงที่งดงาม ให้คืนประชาชน แต่คุณฆ่าคน ที่ความคิดต่าง ไม่มีหนทาง พบความสงบ ทำให้คนลุกฮือ สู้รบ จะกลบเกลื่อนศพ คนที่ตาย ไว้ได้อย่างไร ตะโกนบอกฟ้า..มันไร้ความปราณี โปรดบอกหน่อยสิ..ยิงไล่ ฆ่าทำไม เขาก็คน เราก็คน แค่คนที่คิด..ต่างกัน เขาก็คน ที่ต้องการ..ประชาธิปไตย ซึ่งเนื้อเพลงนี้จะอธิบายความรู้สึกของคนเสื้อแดงไว้ทั้งหมด ที่ต่อสู้และเสียชีวิตไปถึง 99 ศพ
"ฝากถึงบางพรรค ที่อ้างถึงประชาธิปไตย ตอนนี้ก็ถึงเวลาเปลี่ยนให้กับคนรุ่นใหม่เพราะถือว่าเราต่อสู้มามากพอแล้วและก็อายุกันมากแล้ว ก็อยากจะฝากถึงกลุ่มมวลชนคนรุ่นใหม่ สู้ให้ได้ความจริงสู้ให้ได้ประชาธิปไตยกลับคืนมา และเราก็ดีใจที่พักก้าวไกลมีความเข้มแข็ง แต่บนความเข้มแข็งก็อยากจะให้เติมเต็มในเรื่องของความน่ารัก เห็นอกเห็นใจพันธมิตรทั้ง 8 พรรค เดินหน้าต่อไปในการจัดตั้งรัฐบาล และเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยก็จะเป็นผู้ใหญ่พอที่จะสนับสนุนน้องน้อง และพวกเราคนเสื้อแดงเองไม่ว่าใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีพวกเราก็ยินดีหมดขอเพียงแค่มาจากประชาธิปไตยอย่างแท้จริง"