วันที่ 13 กรกฎาคม 2566 ที่โรงเรียนสวนลุมพินี เขตปทุมวัน นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกล่าวระหว่างร่วมกิจกรรม พาลูกซ้อนท้ายใส่หมวกกันน็อก ว่า โรงเรียนสวนลุมพินีมีการรณรงค์เน้นข้อควรระวังระหว่างผู้ปกครองขับขี่มอเตอร์ไซค์มาส่งนักเรียน ได้แก่ 1.ตรวจสอบและระวังเสื้อผ้าของเด็กเข้าไปพันในล้อรถมอเตอร์ไซค์ระหว่างขับขี่ 2.สวมหมวกกันน็อกที่มีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) และใส่สายล็อกหมวก3.ระวังการสะพายกระเป๋าของเด็ก อาจไปเกี่ยวสิ่งรอบข้างระหว่างขับขี่ได้ 4.ไม่ควรให้กินขนมหรือเล่นโทรศัพท์ระหว่างซ้อนท้าย 5.ขับขี่ปลอดภัยไม่เกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

 

นายชัชชาติ กล่าวว่า แม้กทม.จะพัฒนาถนน การจราจร ไฟส่องสว่าง แต่หากไม่สวมหมวกกันน็อกอัตราการเสียชีวิตยังมีอยู่ จึงมีการรณรงค์ให้เด็กและผู้ปกครองสวมหมวกกันน็อก โดยเฉพาะระหว่างเดินทางมาโรงเรียน เพราะสาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่ในกรุงเทพมหานครมาจากการไม่สวมหมวกกันน็อก

 

การให้เด็กสวมหมวกกันน็อก ช่วยกระตุ้นให้ผู้ปกครองเห็นความสำคัญในการสวมใส่ไปด้วย เป็นการฝึกเด็กเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่จะได้คุ้นชินกับการสวมหมวกกันน็อก จากข้อมูลพบว่า เด็กนักเรียนในกรุงเทพมหานครกว่า 70% นั่งมอเตอร์ไซค์มาโรงเรียน เนื่องจากสะดวกต่อการเดินทาง กทม.จึงเน้นให้ทุกโรงเรียนร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศกิจตรวจหน้าโรงเรียนและช่วยประชาสัมพันธ์ผู้ปกครองนักเรียนให้เห็นความสำคัญในการสวมหมวกกันน็อก ซึ่ง กทม.แจกหมวกกันน็อกนักเรียนไปแล้วกว่า 1 แสนใบเมื่อปี 2565 โดยกิจกรรมโรงเรียนสวนลุมพินีวันนี้ มีการแจกของรางวัลสำหรับนักเรียนและผู้ปกครองที่สวมหมวกกันน็อกระหว่างเดินทางมาโรงเรียนอีกด้วย

 

สำหรับโรงเรียนสวนลุมพินี นักเรียนสามารถสวมชุดส่วนตัว (Private Dress) ทุกวันศุกร์ โดยการตกลงภายในของสภานักเรียน มีข้อกำหนดให้นักเรียนแต่งกายตามความประสงค์ภายใต้ความสุภาพ และไว้ทรงผมได้อิสระภายใต้สุขอานามัย