หอการค้าไทยกังวลตั้งรัฐบาลช้า กระทบลงทุนใหม่-ท่องเที่ยว ย้ำถ้าชุมนุมขอให้เป็นไปอย่างสงบตาม กม.
ภายหลังที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)มีมติให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพส.ส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกลสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 ( 3 )ประกอบมาตรา 101 ( 6 )หรือไม่ จากเหตุมีชื่อถือครองหุ้นสื่อบริษัทไอทีวีจำกัดมหาชนจำนวน 42,000 หุ้น รวมทั้งมีคำขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ไว้จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ก่อนโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 ก.ค.66 นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทยกล่าวว่า ภาคเอกชนรับได้หากทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็นกฎหมายสูงสุด แต่การจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้าออกไปอาจส่งผลกระทบกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนใหม่ที่จะเข้ามาใหม่ โดยเป็นห่วงหากลากยาวจะกระทบเชื่อมั่นมากขึ้น เพราะนักลงทุนอยากเห็นรูปร่างหน้าตาของรัฐบาลใหม่ คณะรัฐมนตรีใหม่ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ นโยบายที่ชัดเจนที่จะมีการแถลงต่อสภา เพื่อที่จะตัดสินใจในการลงทุนต่อไปอย่างไร คนที่ลงทุนอยู่แล้วอาจจะลงทุนต่อ แต่คนที่จะมาใหม่อาจจะชะลอไว้
ขณะเดียวกันหากจะมีการชุมนุมแสดงออกทางการเมือง หากชุมนุมด้วยความสงบก็ไม่เป็นปัญหา แต่หากไม่เรียบร้อยก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะดูแล ขอให้ชุมนุมเป็นไปอย่างสงบตามกฎหมาย เพื่อไม่ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวลำบาก แต่สำหรับการทำงานยังมีคณะรัฐมนตรีรักษาการอยู่ก็ให้เดินหน้าต่อไป ซึ่งในส่วนภาคเอกชนยังทำงานขับเคลื่อนร่วมกับข้าราชการประจำไม่ได้หยุดการทำงาน มองว่านโยบายเชิงรุกที่ต้องตัดสินใจอาจได้รับผลกระทบบ้าง เพราะอาจไม่เหมาะสมที่จะให้คณะรัฐมนตรีรักษาการเป็นคนตัดสินใจ แต่หากเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับประเทศชาติก็ต้องขอ กกต.เป็นกรณีไป เพื่อทำงานต่อ โดยเฉพาะในเรื่องของการจัดทำงบประมาณใหม่ หากยังไม่มีรัฐบาลเชื่อว่าการลงทุนจะยังไม่เดินหน้า