เมื่อเวลา 8.55 น. วันที่ 12 ก.ค. 66 ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่ามีการแจกกล้วยในรัฐสภา เพื่อไม่ให้เลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ตนยังไม่ทราบ แต่เมื่อมีการเลือกตั้งเรื่องแบบนี้ก็อาจเกิดขึ้นได้ด้วยสองเหตุผลคือ 1.อาจจะเป็นเรื่องจริง มีการเคลื่อนไหวเพื่อที่จะสกัดหรือสนับสนุนคนใดคนหนึ่ง 2.เป็นเรื่องของการปั่นข่าวหรือไอโอขึ้นมา เพื่อทำลายความชอบธรรมของคนบางคน ฉะนั้นเราจะต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง ตนยังไม่เชื่อว่าจะมีตอนนี้ แต่การล็อบบี้หรือการพยายามที่จะโน้มน้าวกัน หรือจะถึงขั้นมีกล้วยหรือไม่ ต้องดูกันอีกทีหนึ่ง ขอหาข้อมูลก่อน
เมื่อถามว่าการมีข่าวนี้ออกมา จะทำให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) หรือส.ส. เปลี่ยนใจในการโหวตหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ถ้ามีกล้วย ก็มีทั้งส.ส. และส.ว. ซึ่งเป็นเรื่องไม่ดี ไม่ใช่เฉพาะส.ว. ที่ลังเล แต่จะทำให้เสื่อมศรัทธาของประชาชนด้วยเป็นเรื่องที่ไม่ควรมีและไม่ควรเกิด แล้วถ้ามันไม่มี คนที่ปล่อยข่าวก็ไม่ควรปล่อย เพราะจะทำให้เกิดผลเสียทั้งระบบ ขอฝากว่า การทำไอโอ หรือปล่อยข่าวด้วยวิธีนี้ เพื่อทำลายความเชื่อถือ ไม่ควรทำ
เมื่อถามถึงกรณีที่ส.ว.มีการตั้งแง่ว่า หากโหวตครั้งแรกไม่ผ่าน ครั้งที่สองอาจจะหมดสิทธิ์ในการเสนอชื่ออีก ได้มีการหารือในเรื่องนี้หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า มันก็เป็นไปได้ เพราะวันนี้ความเห็นในเรื่องนี้ยังหลากหลายอยู่ บางคนก็บอกว่ารอบเดียว บางคนก็บอกว่าสองถึงสามรอบ บางคนก็ยกมาว่าเป็นญัตติ บางคนก็ยกแนวปฏิบัติเดิมๆมา ตนเชื่อว่าวันที่ 13 ก.ค.ที่จะถึงนี้ ก็อาจจะมีคนยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด หากนำมาหารือกันในสภาก็คงไม่มีปัญหา
ทั้งนี้ เชื่อว่าจะมีข้อยุติ ซึ่งในวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา ในการประชุมวิป 3 ฝ่าย ตนก็ได้พูดในที่ประชุมว่า อาจจะมีสมาชิกหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งประธานสภาฯ ก็ได้บอกว่า หากจะหารือในเรื่องนี้ ต้องหารือภายหลังการโหวตแล้ว มีมติแล้ว ก่อนที่จะเลือกไม่น่าจะมีการหารือ เพราะเรื่องยังไม่เกิด ฉะนั้น มีความเป็นไปได้ เพราะความเห็นหลากหลาย
เมื่อถามว่า ส่วนตัวมองว่าโหวตรอบเดียวจบหรือไม่นายสุทิน กล่าวว่า มันก็ต้องจบ ต้องออกมาทางใดทางหนึ่ง แต่ควรจะมีการว่ากันอีกสัก 1-2 รอบ เรื่องนี้ขอให้เป็นดุลพินิจของประธานรัฐสภา เพราะประธานรัฐสภาคงศึกษากฏหมายและข้อบังคับ รวมถึงแนวปฏิบัติมาดีแล้ว เชื่อว่าประธานรัฐสภาคงมีทางออกที่ดี