เมื่อวันที่ 9 ก.ค.66 พ.ต.ท. ธรรศพงศ์ เดชวรไพบูลย์ สว.(สอบสวน) สน.อุดมสุข รับแจ้งเหตุยิงกันตาย เหตุเกิดที่ หอพักไม่มีชื่อ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม.รุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ปณิธิ ชาอุ่น ผกก.สน.อุดมสุข เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรสถาบันนิติเวชฯรพ.ตำรวจ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารที่พักอาศัยสูง2 ชั้น ที่ห้องพักซ้ายสุดไม่มีเลขที่ ชั้น 2 ภายในห้องพบศพ นายพงศพัศ อายุ 18 ปี นอนคว่ำหน้าอยู่บนที่นอนปูวางอยู่ที่พื้นห้องนุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีดำไม่สวมเสื้อมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด9มม. 2 นัดเข้าที่โหนกแก้มขวาทะลุแก้มซ้ายและแขนขวา ทะลุเข้าชายโครงขวาทะลุหน้าอก
ถัดไปใกล้กันที่พื้นห้องพบศพนายเจษฎา หรือ ท็อป อายุ 35 ปี สภาพนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีชมพูกางเกงขาสั้นสีเขียว มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธขนาดเดียวกันที่ใต้กกหูขวาทะลุขมับซ้าย1นัด และพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อลูเกอร์ มีกระสุนค้างในรังเพลิง1นัด ตกอยู่ข้างตัวใกล้ขาขวาเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บทราบชื่อแค่น.ส.เฟิร์น อายุ 18 ปี แฟนสาวนายพงศพัศถูกยิงที่หน้าท้อง1 นัดบาดเจ็บสาหัส ถูกนำส่งรพ.สิรินธร แพทย์กำลังผ่าตัดช่วยเหลือเป็นการด่วน พ้นขีดอันตรายแล้ว
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุมีอาชีพเป็นการ์ดตามผับนอกจากนี้ยังมีงานเสริมรับจ้างส่งของ เคยมีเมียและลูกติดมาก่อน ต่อมาแต่งงานอยู่กินกับ น.ส.โป้ง อายุ 33 ปี พนักงานเสมียนบริษัทแห่งหนึ่ง ย่านประเวศ ทำธุรกิจขายอะไหล่ชิ้นส่วนเครื่องจักรตามโรงงานที่ห้องเกิดเหตุนานกว่า2ปี แต่ชีวิตคู่ไปไม่รอด มีปัญหาภายในครอบครัวแยกกันอยู่นาน3 เดือนแล้ว โดยนายท็อปไปพักอาศัยอยู่ย่านวัดมหาบุศย์ ย่านพระโขนง ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือน นายท็อปเดินทางมาที่ห้องเกิดเหตุง้อขอคืนดี น.ส.โป้งแต่ถูกปฏิเสธกลับไป
ก่อนเกิดเหตุวันนี้นายท็อป มาง้อขอคืนดีกับอดีตเมียอีกครั้ง เมื่อมาถึงเคาะห้องให้คนเปิดรับแล้วตะโกนอ้างว่าจะมาเก็บของและเสื้อผ้าแต่ในห้องขณะนั้นมีอดีตแม่ยายของนายท็อป นายพงศพัศหลานชายน.ส.โป้งและแฟนสาวของนายพงศพัศ อยู่ในห้องบอกว่าน.ส.โป้งไม่อยู่ นายท็อปไม่เชื่อและโกรธมากไม่มีใครเปิดประตูรับจึงใช้ปืนทุบหน้าต่างบานเก็ดและปีนหน้าต่างเข้าไปในห้องทะเลาะกับแม่ยายรุนแรงนายพงศพัศและแฟนสาวเข้าห้ามถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าวส่วนแม่ยายของนายท็อปหลบหนีออกมาจากห้องได้ จากนั้นนายท็อปใช้ปืนยิงตัวเองหนีความผิด ทั้งนี้แม่ยายของนายท็อปยังอยู่ในอาการตกใจให้การไม่ได้เจ้าหน้าที่นำตัวไปสอบสวนที่สน.อุดมสุข และติดตามผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป