เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 7 ก.ค. 2566 ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานมอบรางวัลประกาศเกียรติคุณเป็น“ค่าของแผ่นดิน” ประจำปี 2565 ให้แก่ บุคคล หน่วยงาน และโครงการ ที่มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์มีคุณค่าแก่การยกย่อง และมีคุณค่าแก่การชื่นชม เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติ และเป็นขวัญกำลังใจที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่ประชาชน สังคม และประเทศชาติ รวมทั้งเป็นต้นแบบแห่งการสร้างสรรค์ความดี อันพึงเป็นคุณลักษณะที่ดีแก่สังคมไทยด้วย โดยมี นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีนางสาวอรนุช ศรีนนท์ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน
โอกาสนี้นายกฯ มอบรางวัลประกาศเกียรติคุณเป็น “ค่าของแผ่นดิน” ประจำปี 2565 ให้แก่บุคคล หน่วยงาน และโครงการ จำนวน 54 ราย แบ่งเป็นผลงานที่มีความโดดเด่น และมีคุณค่าแก่การยกย่อง ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ จำนวน 46 ราย และเป็นผลงานที่มีคุณค่าแก่การชื่นชม ได้รับใบประกาศเกียรติคุณจำนวน 8 ราย
จากนั้นนายกฯ กล่าวแสดงความยินดีและชื่นชมกับผู้ที่ได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณเป็น “ค่าของแผ่นดิน” ประจำปี 2565 อันน่าภาคภูมิใจนี้ โดยย้ำว่าทุกคนที่ได้รับรางวัลล้วนเป็นผู้มีความมุ่งมั่นทำประโยชน์และทำความดีเพื่อสังคมและประเทศชาติ ซึ่งการทำประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ เป็นหน้าที่ของทุกคนในฐานะพลเมืองของประเทศ รวมถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ เสียสละและอุทิศใจกาย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน สังคม และชาติบ้านเมือง อย่างไรก็ตามการทำประโยชน์ในแต่ละสาขาอาชีพนั้นต้องใช้ระยะเวลาและกระทำอย่างต่อเนื่อง จนเกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม เป็นที่ประจักษ์ โดยจะเป็นกำลังใจให้แก่ทุกคนในการทำความดีในโอกาสต่อ ๆ ไป
นายกฯ กล่าวย้ำว่า “ค่าของแผ่นดิน” เป็นคำที่มีความหมายและมีความสำคัญอยู่ในหัวใจของคนไทยทุกคน โดยแผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์และเป็นของคนไทยทุกคน ซึ่งเมื่อถึงเวลาทุกคนก็ต้องตอบแทนคุณของแผ่นดินคือการทำให้ประชาชนในประเทศหรือแผ่นดินนั้นมีความเจริญเติบโต มีอาชีพและรายได้ที่มั่นคงเหมาะสมผ่านโครงการต่าง ๆ ซึ่งโครงการ “ค่าของแผ่นดิน” ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีดำเนินการร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องก็เป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญ ภายใต้หลักการเผื่อแผ่และแบ่งปัน โดยการทำความดีให้กับคนอื่นและสังคม ประเทศชาติ ซึ่งสุดท้ายแล้วความดีงามที่ทุกคนได้ทำนั้นก็สะท้อนส่งผลดีกลับคืนมาสู่ผู้กระทำความดีให้พบกับความเจริญและมีความสุขเช่นกัน พร้อมกันนี้ขอให้ทุกคนได้ช่วยกันขยายผลโครงการ “ค่าของแผ่นดิน” ไปในบุคคล หน่วยงานและพื้นที่ต่าง ๆ ให้มากขึ้น เพื่อนำพาพัฒนาขับเคลื่อนประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นต่อไป
นายกฯ กล่าวว่า ขอให้ทุกคนยึดมั่นในการทำความดี น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อันเป็นแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรซึ่งเป็นหลักการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชปณิธาน สืบสาน รักษา ต่อยอด มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตและการทำประโยชน์ เพื่อชาติบ้านเมืองของเรา พร้อมขอบคุณผู้ดำเนินโครงการ ผู้จัดงาน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนที่จัดกิจกรรมนี้ได้อย่างสมบูรณ์ครบถ้วน
จากนั้นเวลา 14.29 น. นายกฯ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลประกาศเกียรติคุณเป็น“ค่าของแผ่นดิน” ประจำปี 2565 ว่า วันนี้เป็นการมอบรางวัลให้กับผู้ที่ทำความดี ซึ่งแผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินของคนไทยทุกคน ถึงเวลาเราต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน เพื่อทำให้คนบนแผ่นดินมีความเจริญเติบโตมีความพอเพียง มีอาชีพ มีรายได้ที่เหมาะสม ซึ่งเราทำหลายโครงการและเป็นโครงการที่ช่วยกันทำหลายหน่วยงาน ตามสิ่งที่ตนเคยบอกอยู่เสมอคือการ เผื่อแผ่และแบ่งปัน ในเรื่องของการทำความดีกับคนอื่น ซึ่งจะตอบกลับมาเป็นกุศลให้ตนเองและครอบครัวมีความสุข มีความเจริญไม่ไปอยู่ในท่ามกลางความขัดแย้ง และไม่ไปทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งเกิดขึ้น ไม่ว่าจะพูดหรือทำอะไรก็ตามเป็นเรื่องที่ควรจะทำโดยเฉพาะในเวลานี้