เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน ตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล ให้การต้อนรับ ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) พร้อมคณะผู้บริหาร ส.ป.ก. ลงพื้นที่ตรวจราชการในเขตปฏิรูปที่ดินสตูล และเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนบ้านโตนปาหนัน (โกปี้บ้านโตน) ตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2558 ปัจจุบันมีสมาชิกกลุ่ม 39 ราย มีความเข้มแข็ง สามารถผลิต แปรรูป จำหน่ายสินค้าภายในชุมชน โดยนำทุนชุมชนที่ประกอบด้วย ทุนมนุษย์ ทุนทางสังคม ทุนทางวัฒนธรรม ทุนทางธรรมชาติ และทุนทางการเงิน มีวิถีการดำเนินชีวิตที่เรียบง่าย สร้างเสน่ห์จนสามารถยกระดับจากชุมชนเกษตร ให้เป็นชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของอำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล 

สำหรับจังหวัดสตูล อนุญาตให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน จำนวน 4,497 ราย 6,196 แปลง 40,134 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 5 อำเภอ ประกอบด้วยอำเภอทุ่งหว้า อำเภอละงู อำเภอเมืองสตูล อำเภอควนโดน และอำเภอควนกาหลง ซึ่งอำเภอควนกาหลงอนุญาตให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ 2 ตำบล คือ ตำบลควนกาหลง และตำบลทุ่งนุ้ย ที่เป็นที่ตั้งของวิสาหกิจชุมชนบ้านโตนปาหนัน (โกปี้บ้านโตน) หมู่ที่ 5 ตำบลทุ่งนุ้ย มีเกษตรกรได้รับการจัดที่ดินไปแล้ว จำนวน 42 ราย 54 แปลง เนื้อที่ 348 ไร่ 

นายชาเร็ต ใจดี ประธานวิสาหกิจชุมชนบ้านโตนปาหนัน (โกปี้บ้านโตน) กล่าวว่า เกษตรกรส่วนใหญ่ที่เป็นสมาชิกของวิสาหกิจชุมชนฯ เป็นเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน โดยใช้เวลาหลังว่างเว้นจากกิจกรรมในแปลงเกษตรกรรมมารวมกลุ่มกันนำวัตถุดิบที่มีมากในท้องถิ่นโดยเฉพาะกาแฟพันธุ์โรบัสต้า ซึ่งปลูกสืบทอดกันมายาวนานกว่า 100 ปี ผนวกกับวิถีชีวิตของคนในชุมชนที่นิยมดื่มกาแฟในตอนเช้า มาแปรรูปเป็นผงโกปี้ ที่สามารถนำไปเป็นส่วนผสมทำเป็นเมนูอื่น ๆ ได้หลากหลายขึ้น นับเป็นกลุ่มที่ประสบความสำเร็จในการผลิตกาแฟโบราณ แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “โกปี้บ้านโตน” ซึ่งมีความสดใหม่ แสดงถึงอัตลักษณ์ของท้องถิ่นและชุมชน ที่ผ่านมา ส.ป.ก. ได้ให้การสนับสนุนวิทยากรและครูฝึกอาชีพเข้ามาอบรมการแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร รวมทั้งให้โอกาสสมาชิกกลุ่มได้ไปศึกษาดูงานด้านการพัฒนาธุรกิจชุมชน และนำความรู้ที่ได้มาต่อยอดธุรกิจของกลุ่มวิสาหกิจฯ เป็นอาชีพเสริมให้กับสมาชิกได้อีกทางหนึ่ง สำหรับกิจกรรมหลักของวิสาหกิจชุมชนฯ จะประกอบด้วย 8 ฐานการเรียนรู้ ได้แก่ กาแฟโบราณ (โกปี้), ข้าวข้องไผ่, ขนมพื้นเมือง (ขนมกอเดาะ), ผักกูดในเขตปฏิรูปที่ดิน, การใช้ประโยชน์จากสะบ้า, สบู่โกปี้ออแกนิค, แพทย์แผนไทย และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ (ท่องป่าชมไพร คลองสายน้ำใสใต้โคนต้นหว้า)

นอกจากนี้ กลุ่มวิสาหกิจฯ ยังรับซื้อเมล็ดกาแฟสด และสารกาแฟจากเกษตรกรที่เป็นสมาชิก เน้นเมล็ดกาแฟที่กะเทาะเปลือกออกหมด และสิ่งที่กลุ่มวิสาหกิจฯ ให้ความสำคัญมากที่สุด คือ เรื่องคุณภาพและมาตรฐานของเมล็ดกาแฟต้องไม่มีสีดำเกินครึ่งหนึ่งของเมล็ด ทั้งนี้ ผลผลิตของกลุ่มจะจำหน่ายในรูปแบบบรรจุภัณฑ์แบบซองมีต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 7.4 บาท/ซอง โดยบรรจุซองละ 75 กรัม ราคาขายอยู่ที่ 20 บาท/ซอง แบบบรรจุขวด ราคาขายอยู่ที่ 35 บาท/ขวด ซึ่งในแต่ละปีทางวิสาหกิจสามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบบซองประมาณ 5,000 ซอง และแบบขวดประมาณ 2,500 ขวด ซึ่งการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มสามารถสร้างรายได้กำไรหลักแสนต่อปี

ด้าน เลขาธิการ ส.ป.ก. ได้กล่าวชื่นชมการดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชนฯ มีการรวมกลุ่มกันด้วยความสามัคคีมีความเข้มแข็ง อีกทั้งยังคงรักษาวิถีชีวิตเป็นเสน่ห์ของชุมชนไว้ ทั้งนี้ ส.ป.ก. และหน่วยงานร่วมบูรณาการ พร้อมยินดีให้การสนับสนุนองค์ความรู้นอกเหนือจากภูมิปัญญาของชุมชน เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถต่อยอดผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของกลุ่มสืบทอดรุ่นต่อรุ่นได้อย่างยั่งยืนต่อไป

นอกจากมีกาแฟโบราณอร่อย ๆ ทางกลุ่มวิสาหกิจฯ ยังมีการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ผ่านเพจ “ท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านโตนปาหนัน” และ “ชุมชนบ้านโตนปาหนัน” เพื่อขยายฐานลูกค้าและให้ผู้บริโภคทั่วประเทศสามารถเข้าถึงสินค้าได้สะดวก ง่าย รวดเร็วยิ่งขึ้น ส่วนใครที่สนใจอยากลองชิมกาแฟโบราณแบบฉบับบ้านโตนปาหนัน หรือศึกษาข้อมูลการผลิตของกาแฟโบราณ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ นายชาเร็ต ใจดี ประธานวิสาหกิจชุมชนบ้านโตนปาหนัน ตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล โทร. 08 7298 9936