เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 ก.ค. 66 ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคก้าวไกล น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้ยื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบจริยธรรมการปฏิญาณตนการทำหน้าที่ส.ส. เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า มีข่าวมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ซึ่งเป็นสิทธิ์ของนายศรีสุวรรณ แต่จริยธรรมไม่ได้ถูกพูดถึงในเรื่องการปฏิญาณตน แต่เป็นการประพฤติตนหลังจากนั้น แต่ยังดีที่ให้มีการตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น เนื่องจากเวลาที่ส.ส.จะปฏิญาณตน ตามข้อบังคับจะกำหนดไว้ว่า ต้องให้ประธานสภาผู้แทนราษฏรเป็นผู้กล่าวนำ และส.ส. ต้องพูดตามทีละวรรค เมื่อเกิดการผิดคิวกันนั้น เลยเกิดอาการตกใจขึ้นมา เพราะเมื่อตนเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเจ้าหน้าที่สภาทำท่ายกมือเป็นสัญญาณให้หยุด จึงหันไปหานายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ว่าต้องรอให้ประธานสภาพูดก่อน แต่เนื่องจากส.ส.ได้พูดกันไปแล้ว จึงไม่มีใครได้ยินอะไรและพูดตามไปเรื่อยๆ จนจบ และทวนมาอีกครั้งหนึ่งในช่วงที่ขานเรียบร้อยถือว่าได้ปฏิญาณตนครบถ้วนสมบูรณ์ แต่ถ้าจะมีการตรวจสอบก็ยินดีให้ตรวจสอบ แต่การจะตรวจสอบส.ส. ทั้ง 498 คน ว่าปฏิญาณครบหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะลำบาก เพราะกล้องของสภาก็ไม่ได้ถ่ายทุกคนตลอดเวลา แต่ก็ยินดีให้นายศรีสุวรรณตรวจสอบแน่นอน
น.ส.ศิริกัญญากล่าวอีกว่า ตนไม่คิดว่าเรื่องนี้เป็นปัญหา ตนสามารถอธิบายได้ เพราะมีพยานที่ทราบว่า วันนั้นได้ปฏิญาณตนเรียบร้อยแล้ว ทั้งนายพิธาที่อยู่ขวามือ และฝั่งซ้ายมือเป็นนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล รองประธานสภาฯ คนที่ 1 สามารถตรวจสอบได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยมาก เห็นใจป.ป.ช. ถ้าจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบเรื่องแบบนี้ โดยเป็นสิทธิ์ของการตรวจสอบ ซึ่งยินดีให้ตรวจสอบ และเรื่องนี้ไม่มีผลกระทบต่อพรรค เพราะในวันนี้เรากำลังจะเสนอตัวเข้ามาเป็นฝ่ายบริหาร การตรวจสอบจะเข้มข้นกว่าการเป็นฝ่ายค้านแน่นอน จึงไม่ได้กังวลใจ เพราะคิดว่าเป็นไปตามกระบวนการ ต้องปรับตัวในการถูกตรวจสอบทุกอิริยาบถที่แสดงออกไป ถ้าจะต้องมีการตรวจสอบว่าส.ส.คนไหนปฏิญาณตนครบหรือไม่ ต้องตรวจสอบทุกคน ไม่ใช่ตรวจสอบแค่คนเดียว ไม่คิดว่าการถ่ายทอดสดของทางสภาจะมีการจับสีหน้าทุกคนว่าปฏิญาณครบหรือไม่