ตามรายงานของ American Broadcasting Corporation (ABC) เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ระบุถึงวันที่ 4 ก.ค. เป็นวันหยุด "วันประกาศอิสรภาพ" ในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม สถิติระบุว่าตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน ถึง 5 กรกฎาคม ตามเวลาตะวันออกของสหรัฐฯ เกิดเหตุกราดยิงครั้งใหญ่ในหลายเมืองในสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย และบาดเจ็บหลายร้อยคน

สถิติจากเว็บไซต์ "Gun Violence Archives" ของสหรัฐฯ ระบุว่า  ตั้งแต่เวลา 17:00 น. ของวันที่ 30 มิถุนายน ถึง 05:00 น. ของวันที่ 5 กรกฎาคม ตามเวลาตะวันออกของสหรัฐฯ มีการกราดยิงครั้งใหญ่ 22 ครั้งทั่วสหรัฐฯ  คร่าชีวิตผู้คนไป 20 คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 126 คน เว็บไซต์ระบุว่าเหตุกราดยิงเป็นเหตุการณ์เดียวที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตตั้งแต่สี่คนขึ้นไป  นอกจากนี้ สถิติยังแสดงให้เห็นว่าเหตุกราดยิงในช่วงวันหยุดส่วนใหญ่เกิดขึ้นใน 17 รัฐของสหรัฐฯ และวอชิงตัน ดี.ซี

เหตุกราดยิงที่ร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งเกิดที่ฟิลาเดลเฟีย เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ชายคนหนึ่งถือปืนไรเฟิลและปืนพกสไตล์ AR-15 และสวมเสื้อเกราะกันกระสุนยิงใส่ผู้คนหลายคน ตามคำบอกเล่าของตำรวจ ชายผู้นี้ยิงปืนใส่เหยื่ออย่างน้อย 50 นัด  มีผู้เสียชีวิต 5 คนในเหตุกราดยิง รวมทั้งเด็กชายวัย 15 ปี ผู้ต้องสงสัยในเหตุกราดยิงถูกจับกุมและถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม และทำร้ายร่างกายคนอื่นโดยเจตนา

หลังจากเหตุกราดยิง จิม เคนนี นายกเทศมนตรีฟิลาเดลเฟียกล่าวว่า: "ประเทศนี้ต้องพิจารณามโนธรรมของตนและหาทางเก็บปืนให้ห่างจากบุคคลอันตราย"

ผู้ชายเดินไปตามถนนพร้อมกับปืนไรเฟิล AR สวมเสื้อเกราะกันกระสุนที่มีคลิปหนีบหลายอัน และสุ่มยิงผู้คน มันเป็นเรื่องน่าอาย แต่มันเป็นเรื่องธรรมดาเกินไปในอเมริกา

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม เหตุการณ์กราดยิงยังเกิดขึ้นหลังงานปาร์ตี้ในชุมชนในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย บิล เฟอร์กูสัน ประธานวุฒิสภาแห่งรัฐแมรีแลนด์แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า "นี่เป็นปัญหาสังคมที่เรากำลังเผชิญอยู่ การกราดยิงครั้งใหญ่ที่ส่งผลให้มีคนถูกยิง 28 คน นี่มันบ้ามาก นี่ไม่ใช่สังคมที่เราต้องการอยู่"

นอกจากนี้ ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 5 กรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนในท้องถิ่นกำลังฉลอง "วันประกาศอิสรภาพ" ของสหรัฐอเมริกาในกรุงวอชิงตัน เมืองหลวงของสหรัฐอเมริกา ก็เกิดเหตุกราดยิงขึ้นอย่างกะทันหัน มือปืนเปิดฉากกราดยิงผู้คนจากภายในรถ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 9 คน ขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด