จากกรณี “คุณกบ” เจ้าของโรงงานน้ำปลาร้า ออกมาร้องสื่อ ระบุถูก “พิมรี่พาย พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์” แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง สั่งผลิตน้ำปลาร้า จนต้องกู้เงินมาสร้างโรงงานเพื่อรองรับการผลิตน้ำปลาร้า แต่สุดท้ายพิมรี่พายไม่รับของ มูลค่าความเสียหายนับสิบล้านบาท ทุกวันนี้กินไม่ได้นอนไม่หลับ ร้องไห้ทุกวัน ขณะที่พิมรี่พายไลฟ์สดโต้ ยกเลิกเพราะคู่กรณีผลิตสินค้าไม่ได้มาตรฐานเอง
วันที่ 6 ก.ค. 66 รายการโหนกระแส ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ “คุณกบ” เจ้าของโรงงานน้ำปลาร้า , คุณต่าย เจ้าของโรงงานน้ำปลาร้าอีกหนึ่งโรงที่โดนเหมือนกัน , อาณัติ ผลิตกล่องพลาสติก ค้างชำระอยู่ 1.6 ล้าน รวมทั้ง ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล เป็นทนายคนกลางในวันนี้
โทรไปคุยกับคุณพิมรี่พายแล้ว บอกขอเข้าสายได้มั้ย แกบอกไม่สะดวกให้ทางนี้พูดได้เลย คุณกบ ผมถามว่าไม่สบายหรือเปล่า เพราะสั่งน้ำมูก เช็ดน้ำตา?
กบ : หนูร้องไห้มาตั้งแต่ที่เป็นข่าว (ร้องไห้) ครอบครัวหนูเครียด หนูไม่ได้ตั้งใจมาเป็นข่าว หนูเอาน้ำปลาร้ามาขาย หนูเอารถปิ๊กอัพมาตั้งแต่วันที่ 30 เอาออกจากโรงงานเพื่อมาเร่ขาย หนูไม่คิดว่าจะเป็นข่าว พอเป็นข่าวปุ๊บหนูยังไม่ได้กลับบ้านเลยค่ะ ครอบครัวหนูก็เครียด โรงงานนี้เป็นของย่า ไม่ใช่ของหนู หนูเข้ามาบริหารโรงงานย่า (ร้องไห้) ย่าแกกลัวไม่มีที่อยู่ แกบอกว่าเขาจะฟ้องเรามั้ย แล้วรู้มั้ยเขาเป็นใคร เขามีชื่อเสียง มีบารมี มีอำนาจ เราจะสู้เขาได้มั้ย (ร้องไห้)
ลองเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น?
กบ : ครั้งแรกหนูรู้จักเขาผ่านโรงงานน้องต่าย
คุณต่ายก็ทำธุรกิจกับพิมรี่พายมาก่อน?
ต่าย : เจ๊กบเป็นคนสอนสูตรเรามา เจ๊กบก็มีบุญคุณที่สอนสูตรการทำน้ำปลาร้าจนเรามีโรงงาน แล้วอยู่ดีๆ วันนึงมีคนโทรเข้ามา เขายังไม่ได้บอกว่าเป็นใคร เขาบอกว่าอยากให้ผลิตปลาร้าวันละ 5-6 แสนขวด อยากเข้ามาที่โรงงาน ผจก.เขามาเอง
ครั้งแรกไม่ใช่พิมรี่พาย?
ต่าย : ไม่ใช่ เป็นผู้จัดการมา เขาบอกว่ากำลังผลิตคุณได้เท่าไหร่ ตอนนั้นเรายังเป็นโรงงานเล็กๆ อยู่ ได้วันละ 2 หมื่นขวด แต่เขาอยากได้วันละ 5-6 แสนขวด เราก็เลยบอกว่าทำให้ไม่ได้หรอก เขาก็โน้มน้าวว่ามีโรงงานอื่นมั้ยที่แนะนำผม เพื่อจะร่วมกันผลิตให้ได้วันละเท่านี้ เพราะยอดขายเขาดี ก็เลยนึกถึงคนที่มีบุญคุณกับตัวเอง วันนี้โอกาสมาถึงเราแล้ว เราก็อยากให้คนมีบุญคุณกับเรา สอนสูตรปลาร้าเราได้ร่วมผลิตด้วย ต่ายเลยแนะนำเขาไปที่โรงงานปลาร้าแม่ประกาศ
ซึ่งเป็นชื่อจริงของย่า คุณกบรับช่วงมา แล้วยังไงต่อ?
ต่าย : จากนั้นให้เจ๊กบไปดิวกับคุณเขา
ไม่กล้าเอ่ยชื่อ กลัวเขาฟ้องเหรอ?
ต่าย : กลัวค่ะ เจ๊กบก็ไปดีล เขาบอกว่าคุณพร้อมที่จะเดินไปกับเรามั้ย ให้คุณเติบโตไปมากกว่านี้มั้ย มาโน้มน้าวให้เราสร้างโรงงานสร้างทุกอย่างเพื่อผลิตให้เขา
โน้มน้าวคุณหรือพี่กบ?
ต่าย : โน้มน้าวทั้งสองคน ให้ร่วมกันทำ
ดีลกันลักษณะไหน ดีลลงเงินร่วมกัน เป็นพาร์ตเนอร์ร่วมทุนกัน?
ต่าย : ไม่ได้ร่วมค่ะ เขาบอกว่าเขาอยากได้ออเดอร์ประมาณนี้ต่อวัน เราบอกว่ากำลังผลิตเราไม่พอ เขาก็บอกว่าคุณกล้าลงทุนไปพร้อมกับเรามั้ย เรามีออเดอร์ให้คุณ ในความรู้สึกต่าย พอบอกว่าเป็นแบรนด์น้ำปลาร้าของแม่ค้าคนดัง เราก็ดีใจ เพราะเราเป็นเอฟซีเขาอยู่แล้ว เราดูคลิปเขาไปทำความดีเราก็ชื่นชอบ เราดีใจที่เขาให้โอกาสเรา เราบอกเรากับเจ๊กบพร้อมลงทุน ต่ายก็กู้หนี้ยืมสิน เอาเงินเก็บตัวเองทั้งหมดไปสร้างโรงงาน หมดไป 20 กว่าล้าน
คนละโรงงาน?
ต่าย : ใช่ค่ะ ต่ายก็ลงทุนใหม่เลย
มันเป็นบิ๊กดีล ดีลครั้งใหญ่มาก จะเป็นการสั่งน้ำปลาร้าเป็นสิบล้านขวด ทั้งสองโรงงาน มีการแชร์กันว่าต้องทำส่งให้พิมรี่พาย คุณเลยลงทุนเปิดโรงงานเลย?
ต่าย : ตอนแรกเรามีโรงงานอยู่แล้ว แต่กำลังผลิตเราไม่พอ เราก็เปิดให้ใหญ่ขึ้นไปอีกเพื่อรับดีลนี้ เพราะเขาขอจากโรงงานต่าย 1 แสนขวดต่อวัน ทีนี้เราก็ไปกู้หนี้ยืมสินมาเพื่อสร้างโรงงาน ตอนนั้นรู้จักกันเดือนก.พ. เขาโน้มน้าวใจเราให้ทำทุกอย่าง ชิมสูตรทุกอย่าง โอเค ดีลจบแล้ว อร่อยแล้ว เอาตามสูตรนี้ เราก็ดีใจ เราก็ไปกู้เงินมาเลย จากไม่เคยเป็นหนี้เลย เขาบอกว่าเราต้องส่งล็อตแรกวันที่ 1 เม.ย.ปี 64 ซึ่งตอนนั้นเราจะทำยังไงเอาเครื่องจักรมาลงเพื่อทำให้ได้ ต่ายก็ไปกู้นอกระบบมาเลย 2 ล้านบาท เพื่อไปก่อสร้างโรงงาน เพราะกู้ธนาคารไม่ได้แน่นอน
คุณขึ้นโรงงานเสร็จแล้วยังไงต่อ?
ต่าย : ก็มีการผลิตกันล็อตแรกเลย 1 เม.ย. 64 ก็ส่งทัน ตอนนั้นอยู่ที่ 6 หมื่นขวดต่อวัน กระบวนการผลิตทุกครั้งเราจะส่งตัวอย่างปลาร้าแต่ละล็อตให้เขาชิมก่อน
คุณส่งไปก่อน 6 หมื่นขวดประมาณ 1 เม.ย. มีการจ่ายตังค์มั้ย?
ต่าย : จ่ายครบทุกอย่าง เขากับต่ายไม่มีหนี้สินค้างกัน
งวดที่สองล่ะ?
ต่าย : เราผลิตสินค้าออกมาแล้ว เราก็ถามว่าล็อตแรกโอเคมั้ย เขาบอกว่าโอเค ทุกครั้งก่อนบรรจุขวดจะให้เขาชิมทุกหม้อต้มก่อน เขาบอกจะมี QC ในการชิมทุกครั้งค่ะ แล้วเขาจะโทรบอกโอเค ผลิตบรรจุขวดได้ เราถึงบรรจุดขวดแล้วส่งไป นี่คือกติกาเลย
ในแต่ละครั้งไม่เหมือนกันเหรอทำน้ำปลาร้า?
ต่าย : เหมือนกันค่ะ แต่เขาอยากได้มาตรฐานมาก เขาต้องชิมทุกครั้ง QC เขาต้องชิมทุกครั้งถึงจะให้เราบรรจุขวดได้
งวดที่สองเป็นยังไง?
ต่าย : เรายังไม่ได้ส่ง เพราะเขาเบรกสินค้า บอกว่าไม่โอเค เขาทำส้มตำแล้วมันเค็ม งวดที่สองผลิตแล้ว
งวดที่สองต้องส่งตัวอย่างให้เขากินก่อน?
ต่าย : เราส่งแล้ว เขาโอเคกับรสชาติแล้ว 6 หมื่นขวดเหมือนเดิม กำลังจะขึ้นรถ รถจอดรอแล้ว เขาส่งมาว่าระงับการส่งสินค้าล็อตนี้ก่อน เขาไลฟ์สดตอนเย็นว่าทำส้มตำแล้วมันเค็มไม่เอาสินค้าล็อตนี้ เราก็เลยย้อนกลับดูคลิปไลฟ์สดเขา เราก็ชี้แจงไปว่า ปกติคุณพิมทำส้มตำคุณพิมใช้สองทัพพี แต่รอบนี้คุณพิมเทไปสี่ทัพพี ไม่เค็มก็ต้องเค็มแหละค่ะ ด้วยอัตราส่วนการปรุง เรามีเครื่องมือวัดความหวานความเค็มของเรา โรงงานของเรามีมาตรฐาน มี QC ตรวจสอบ แล้วคุณพิมมาบอกว่ารสชาติไม่ได้ แล้วคุณพิมใช้อะไรวัด เขาบอกว่าเขาใช้ปากเขาชิม พวกพี่มีเครื่องอะไรวัดไม่รู้ แต่หนูใช้ปากหนูชิม
ทนายแก้ว : การตกลงว่าจ้างครั้งนี้ มีใบสั่งจ้างมั้ย
ต่าย : มีค่ะ
ทนายแก้ว : มีใบสั่งจ้างทั้งหมดหรือทีละล็อต
ต่าย : ตอนแรกที่เราจะเซ็นสัญญากัน เขาจะถามเราก่อนว่าเราผลิตได้วันละเท่าไหร่ เราก็บอกว่าขอวันละ 1 แสนขวดพอ แต่ช่วงแรกๆ เราขอแค่ 5 หมื่นก่อน เพราะไม่แน่ใจว่าจะส่งทันมั้ย สัญญาว่าจ้างเขาทำมาแล้วจะให้เราเซ็นทั้งสองโรงงาน แต่มีอยู่ข้อนึงที่ต่ายไม่โอเค ข้อนั้นบอกว่าจะต้องส่งสินค้าให้ทันทุกวัน ถ้าส่งไม่ทัน ปรับ 75 เปอร์เซ็นต์ ต่ายก็เลยบอกเจ๊กบว่าเราไม่ควรเซ็นข้อนี้ เพราะมันจะมีเหตุสุดวิสัย เครื่องจักรพัง ไฟดับ เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาเราส่งไม่ได้ทุกวัน เราขอหมายเหตุในข้อนี้ด้วย แล้วการปรับ 75 เปอร์เซ็นต์ มันเยอะมากเลยนะคะ
6 หมื่นขวดล็อตที่สอง พิมรี่พายแคนเซิล แล้วจบ ไม่มีการส่งกันอีกเลย?
ต่าย : ไม่จบค่ะ เพราะว่าต่ายลงทุนไป 20 กว่าล้านแล้ว ต่ายต้องขึ้นไปหาคุณพิม ต่ายกับแฟนต่ายขับรถจากร้อยเอ็ดขึ้นมากรุงเทพฯ เพื่อยกมือไหว้เขา เราขอโอกาสอีกครั้ง เราไม่รู้ว่าคุณต้องการอะไร ต้องการสชาติแบบไหน เพราะเราให้คุณชิมไปแล้ว เราขอให้คุณชิมเองต่อหน้าเรา ว่าต้องการอะไรแบบไหน เขาก็โอเค ยอมชิม แล้วบอกว่าปรับอันนี้นิดนึง เราก็โอเค ไปทำมาใหม่ เราไปกลับกรุงเทพฯ หลายครั้งมาก จนวันสุดท้ายเราพาเจ๊กบมาด้วย เพราะเราเป็นคนทดลองสูตร แล้วส่งสูตรให้เจ๊กบใช้ด้วยกัน ผลิตด้วยกันสองโรงงาน เจ๊กบก็มาด้วย วันสุดท้ายที่มาถึง คุณเขาบอกว่าโอเค เอาสูตรนี้แหละ เราไม่มั่นใจในการชิม ก็เอาขวดนั้นแหละไปให้แม่ค้าร้านส้มตำที่อยู่หน้าบริษัทเขาตำมาให้ชิมเลยว่าโอเคแล้ว พี่เอาไปคนละ 10 ล้านขวดเลยมั้ย นี่คือตอนสุดท้ายแล้วค่ะ เจ๊กบบอกว่าเรายังไม่ไหว เปิดเป็นแต่ละ PO ดีกว่า เรากลัว
ทางนี้กังวลใจว่าสิ่งที่ตอบไปอีกฝ่ายจะเก็บไว้ต่อสู้ เลยตอบอ้อม ไม่ต้องกังวลใจพี่ ให้ตอบไปตามข้อเท็จจริง พอขึ้นสู่กระบวนการในชั้นศาล ศาลท่านก็เห็น ไม่ต้องกังวลใจ ที่พูดคุยกัน พิมรี่พายมาติดต่อพี่ต่าย พี่ต่ายก็พาคุณกบ เพื่อสั่งน้ำปลาร้ากัน ตอนแรกสั่งวันละ 6 หมื่นขวด ล็อตแรกส่งไปแล้วประมาณ 1 เม.ย. จ่ายเงินเรียบร้อย กติกาคือ QC ชิมก่อน ถ้าพิมรี่พายชิมปุ๊บเคาะได้ ก็ทำเลย ครั้งที่สองเหมือนกัน พิมรี่พายยืนยันว่าชิมแล้ว เคาะแล้วว่าตกลง ล็อตสองก็ขึ้นได้เลย เขาก็ผลิตเลย พอจะเอาน้ำปลาร้าขึ้นรถ มีแมสเสจส่งมาว่ายกเลิกก่อน เพราะรสชาติไม่เหมือนเดิม มันเค็ม ทางคุณต่ายกลับไปดูเลยว่าทำไมถึงเค็ม พอย้อนดูไลฟ์ ปกติน้ำปลาร้าใส่ 2 ช้อน คุณพิมรี่พายใส่ไป 4 ก็เลยบอกว่าใส่ไป 4 ช้อนมันก็เค็ม ไม่เค็มยังไงก็ต้องเค็มเพราะสูตรมันผิด พิมรี่พายก็ยืนยันว่าไม่เอา ขับรถมากับสามีจากร้อยเอ็ดไปหาพิมรี่พายที่กรุงเทพฯ ขอทำธุรกิจกันต่อ เพราะลงทุนไปเยอะแล้ว หรือจะให้ปรับสูตรใหม่ก็จะทำให้ หลังจากนั้นพิมรี่พายตอบว่า?
ต่าย : ตกลงค่ะ และชิมกันแล้วค่ะ ในการชิมสูตรประมาณ 5-6 ครั้ง จนครั้งสุดท้ายเขาบอกว่าโอเค สูตรนี้ใช่เลย ใช่แล้ว เอาแบบนี้เลย พี่กลับไปผลิตมาให้พิมเลย ก็ยึด PO เก่านั่นแหละผลิตให้พิมพ์เลย แล้วพี่คุยกับจัดซื้อพิมนะ เพราะพิมมีหลายอย่างต้องทำ
ครั้งใหม่เขาสั่งเท่าไหร่?
ต่าย : เราขอส่งวันละ 5 หมื่นขวด แต่ถ้าเราผลิตได้เยอะกว่านั้นเราก็จะส่งทั้งหมดต่อวัน
ทนายแก้ว : ทั้งหมดที่เขาสั่งกี่ขวด
ต่าย : ของต่าย 7 แสนขวด เพราะ PO เจ็ดแสนขวด เขาบอกให้ยึด PO เก่าเลย แล้วเราก็มีแผนการผลิตด้วยว่าจะส่งวันละเท่านี้ๆ
ออเดอร์ใหม่วันละ 5 หมื่นขวด สัญญาคือ 7 แสนขวด ของพี่กบล่ะ?
กบ : พอเขาไปหาต่าย หนูอยู่กรุงเทพฯ เขาก็โทรหา มีการไปเจอกันที่กรุงเทพฯ ตอนนั้นที่เขาอยากได้ของ เขาไปหาต่ายก่อน เขาอยากได้ปริมาณเยอะ ต่ายก็บอกว่ามีอยู่เจ้าเดียวที่ใหญ่และมีมาตรฐาน ต้องไปหาเจ๊กบ เขาโทรหาหนู หนูอยู่กรุงเทพฯ ก็ไปเจอกันที่ร้านกาแฟ เรามีการตกลงกันเรียบร้อย เขาก็บอกว่างั้นไปเจอกันที่โรงงาน แล้วเขาบินไปที่โรงงานหนู เราไปรับที่สนามบินแล้วเข้าโรงงาน มีการพูดคุยทุกอย่างว่าเขาจะเล่นรายการเปิดฝาชิงโชคแจก เจอรถ เจออะไร ซึ่งเขาเตรียมไว้แล้วในปริมาณ 10 ล้านขวด ซึ่งเขาอยากได้วันละ 5 แสนขวด
เขาสั่งหรือยัง หรือแค่บอกว่าอยากได้?
กบ : เขาบอกว่ารายการที่เขาจะจัด อยากได้ประมาณ 10 ล้านขวด เปิดฝาแล้วเจอรถ เจอทอง เจอมอเตอร์ไซค์ ที่เขาจะเล่นรายการนี้ ทีนี้หนูก็เลยบอกว่าไม่มีโรงงานไหนทำได้ 5 แสนขวดต่อวัน ตอนนั้นยังไม่สรุปผลิต หนูก็บอกว่าถ้าจะผลิตขนาดนี้ หนูก็ขอต่าย เพราะเขาเป็นคนแนะนำมา หนูจะไม่ทิ้งกัน เขาบอกได้ แล้วแต่คุณเลย แต่เขาอยากได้โรงงานหนู เขาบอกว่า 5 แสนขวด โรงงานพี่ใหญ่ เขาบินมาดูเอง ตอนนั้นปี 64 โรงงานหนูมาตรฐานสูงสุด เขาบอกว่าโรงงานพี่ใหญ่ที่สุดที่หนูไปมา ทำไมพี่ไม่ทำให้หนูคนเดียว เราบอกว่าทำให้หนูคนเดียวไม่ได้ เพราะเรามีวันนี้ได้เพราะแบรนด์เล็กๆ เขาถามว่าโรงงานนี้เท่าไหร่ เขาจะซื้อโรงงานที่จะผลิตให้เขาเจ้าเดียว หนูก็เลยบอกว่าไม่ได้ เขาบอกจะทำยังไงให้แบรนด์นี้เกิด หนูก็บอกว่าหนูมีที่โรงงานของย่าหนู เลยไปเป็นของลูกสาวหนู เป็นที่ว่างเปล่าอยู่ ก็บอกว่าเดี๋ยวจะเอาที่ตรงนี้มาสร้างเป็นโรงงานใหม่ให้เขา เสร็จแล้วจะเซ็ตทีมพนักงานขึ้นมา ตื่นขึ้นมาคุณจะมีของขายทุกวัน ผลิตให้คุณทุกวัน
จะเอาที่ลูกสาวสร้างโรงงานใหม่เลย แล้วสร้างมั้ย?
กบ : สร้างค่ะ ระหว่างนี้หนูก็บอกเราเริ่มงานกันเลยนะ เขาก็เขียนสัญญา 16 ฉบับ ซึ่งสัญญาฉบับนั้นเขาอยากได้วันละ 5 แสนขวด ซึ่งหนูบอกว่ามันผลิตไม่ได้นะ เขาบอกงั้นคุณทำได้วันเท่าไหร่เรารับหมด ส่งมาเลย ระหว่างนี้เราเลยสร้างโรงงาน มีการขึ้นเสาเอกเสาโท มีการรายงานหมดส่งให้เขาดู พอสร้างโรงงานเสร็จหนูก็ส่งตัวอย่างไปให้เขาชิม เขาบอกว่ายังไม่โอเค เราเลยขึ้นไปกลับๆ จนได้สูตรนี้ เขาเคาะสูตรนี้ ซึ่งป็นสูตรเดียวกันกับต่าย สูตร 6 หมื่นขวด
พิมรี่พายเอา 7 แสนขวดสำหรับคุณต่าย ของคุณเอาเท่าไหร่?
กบ : 1 ล้านขวดค่ะ เขาอยากได้ที่ 10 ล้าน วันนั้นเขาบอกเอาไปเลย คนละ 3 ล้าน เป็น 6 ล้านสองคน แต่หนูบอกว่าหนูไม่เอา หนูกลัว เอาทีละล้านก่อน เราก็เปิด PO มาใหม่ ซึ่งระหว่างนั้นเรามีการตกลงจะเซ็นสัญญา เขาเอาสัญญามาให้หนู 16 ฉบับ แต่เป็นสัญญาทาส ผลิตไม่ได้เราปรับๆ ถ้าจะปรับหนูขนาดนี้ ยึดโรงงานหนูดีกว่ามั้ย (เสียงสั่นเครือ) หนูมีความตั้งใจจะผลิตให้เขา คุณจะต้องมีขายทุกวัน
ตั้งแต่ปีไหน?
กบ : 64 ค่ะ
ทนายแก้ว : ตกลงเซ็นสัญญามั้ย
กบ : หนูไม่กล้าเซ็นค่ะ แต่เขาระดับนั้น ด้วยความน่าเชื่อถือ เขาดังมาก เขาบอกสัญญาไม่ต้องอ่าน ไปทำมาให้ขายก่อน มันจะทันมั้ย เขาบอกพวกพี่เอาไปเลย คนละ 3 ล้าน เราก็บอกว่าเอามาล้านนึง
งัดตัด 3 ล้านกับ 10 ล้านทิ้ง เพราะมันไม่ใช่ตัวจริง เราพูดแค่ 7 แสนกับ 1 ล้านขวด และที่เราต้องทำโรงงาน แล้วไม่สั่งเราต่อเนื่อง?
ทนายแก้ว : PO สองใบนี้เป็นจากบริษัทพิมรี่พาย มีการว่าจ้างฝั่งพี่กบล้านขวด ฝั่งคุณต่าย 7 แสนขวด
เสนอเขาขวดใบเท่าไหร่?
ต่าย : 12.80 บาท
กบ : 13 บาท
1 ล้านขวด ก็ 13 ล้านบาท ถ้าต้องจ่าย ของพี่ต่าย 7 แสนก็ประมาณ 9.5 ล้าน ธงของพี่ต้องการอะไร?
ต่าย : ตัวต่ายเอง ต่ายทักหาเรา เราผลิตสินค้าแล้ว เขาบอกเคลียร์โกดังแป๊บนึง เดี๋ยวให้ส่งของ ทักแล้วทักอีก คุณแบงค์แฟนต่ายก็โทรหาคุณพิมโดยตรง เขาบอกเดี๋ยวเขาเคลียร์ให้ เราทักไปเป็นเดือนจนเรารอไม่ได้แล้ว เพราะเราเอาเครดิตวัตถุดิบทุกอย่างมาเพื่อผลิตให้เขา เงินที่จะผลิตน้ำปลาร้าให้เขาล้านกว่าบาท ทักไปเขาก็ไม่ตอบ ทักมากๆ เขาก็เงียบไปเลย ที่ต่ายออกมาวันนี้ ต่ายไม่เคยคิดจะฟ้องร้องอะไรเขาเลย เจ๊กบชวนฟ้องแต่ไม่ฟ้อง แต่เขามาพูดในรายการว่าสินค้าเราไม่มีคุณภาพ ไม่มีมาตรฐาน เราอยากโชว์ให้เห็นว่าเรามีมาตรฐาน มีอย. ต่ายไม่ได้อยากได้อะไรจากเขาเลย ต่ายมาวันนี้เพราะเจ๊กบ
ธงพี่กบคืออะไร?
กบ : หนูมาเรียกร้องความเป็นธรรม จริงๆ หนูไม่ได้อยากฟ้องเขา หนูรอเขามาคุยกับหนู มาถามข่าวหนูบ้างว่าโรงงานหนูเป็นยังไง (ร้องไห้) เขาออกฉลากมา 2 ล้านชิ้น ผลิตโดยเศรษฐีแซ่บและแม่ประกาศแต่เขาไปสวมให้โรงงานอื่น
พี่ต้องการอะไร?
กบ : ต้องการให้ชดใช้
เท่าไหร่ มีอะไรบ้างที่เขาต้องชดใช้?
กบ : ค่าที่หนูก่อสร้าง และรถลูกหนูที่ออกมาแล้วโดนยึดค่ะ รถคันนี้เขารู้ว่าหนูออกมาเพื่อวิ่งน้ำปลาร้าให้เขาโดยเฉพาะ รถหกล้อคันนี้ หนูมีการส่งให้เขาดู เพื่อวิ่งไปโรงงานต่ายแล้วบรรจุให้พิมรี่พายอีกที
พี่ต้องการเงินชดใช้ มีค่าอะไรบ้าง?
กบ : ค่าสร้างโรงงาน ค่าใบ PO ที่คุณเปิดมา 1 ล้านขวด แล้วก็รถที่โดนยึดไป
ทนายแก้ว : 13 ล้านบาทค่าสินค้ากับค่าก่อสร้างโรงงาน ค่าก่อสร้างโรงงาน รถ อุปกรณ์ต่างๆ พี่ตีราคาเท่าไหร่
กบ : 7 ล้านค่ะ
รวม 20 ล้าน?
กบ : ค่ะ
ของพี่ล่ะ?
ต่าย : ก็ค่าสินค้าที่เราเสียไป พูดตรงๆ ว่าเราล้มทั้งยืนเหมือนกัน
ทนายแก้ว : ค่าสินค้าของพี่ 9.5 ล้าน แล้วพี่เรียกร้องอะไรอีกครับ
ต่าย : ต่ายอยากออกมาเรียกร้องความยุติธรรมด้วยว่าเขานำฉลากของเราไปสวมให้โรงงานอื่น ถ้าเกิดมีคนกินแล้วตายขึ้นมา
เรามีหลักฐานยืนยันมั้ย?
ต่าย : มีค่ะ วันนั้นชิปปิ้งโทรหาต่าย ว่าหจก.เศรษฐีแซ่บใช่มั้ย พอดีเราจะนำสินค้าส่งออกต่างประเทศ และเราต้องขอเอกสารมาตรฐานจากโรงงานเพื่อนำส่งออกไป ต่ายเลยขอวันที่ผลิตสินค้าเพราะต้องส่งใบ mcpd แหล่งที่มาของปลาให้โยงกับวันล็อตที่ผลิตใช้ปลาล็อตไหนไปผลิต พอเขาแจ้งว่าสินค้าล็อตนี้ แต่มาดูแล้วไม่ใช่ของต่าย ต่ายก็ทวนว่าบนฉลากเขียนว่าเศรษฐีแซ่บใช่มั้ย ซึ่งโรงงานต่ายจะสลักไว้บนฝาขวดว่า s1 s2 s3
ทนายแก้ว : กำลังจะกล่าวหาว่าคุณพิมรี่พายแอบเอาสลาก เลข อย. ไปแปะสินค้าคนอื่น แล้วอ้างว่าเป็นสินค้าเศรษฐีแซ่บ
ต่าย : มีค่ะ พอเราเช็กแล้วว่าไม่ใช่ของเรา เราก็ไปกว้านซื้อปลาร้าในท้องตลาดมาดู ซึ่งมันก็ไม่ใช่จริงๆ
วันนั้นที่ร่วมทำกับพิมรี่พาย กี่เจ้า?
ต่าย : 4 เจ้า แต่อีกเจ้าผลิตไม่ทัน กับไปจ้างโรงงานเล็กๆ น้อยๆ ผลิตอีก
พี่โดนอะไร?
อาณัติ : ผมเป็นโรงงานพลาสติก รับจ้างผลิตกล่อง แต่พอถึงกำหนดแล้วไม่ได้รับเงินชำระ ส่งของเรียบร้อย ทั้งหมด 2.5 หมื่นกล่อง เป็นเงิน 1.6 ล้าน
ทนายแก้ว : ใครว่าจ้าง
อาณัติ : คนเดียวกันครับ ได้รับใบ PO
พิมรี่พายว่าจ้าง หรือทางนี้จ้าง?
อาณัติ : บริษัทพิมรี่พายครับ
คุณลำไยอยู่ในสาย เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้?
ลำไย : เป็นอดีตพนักงานค่ะ
ส่งข้อความมาหาทางเรา บอกว่ารู้เรื่องราวในช่วงนี้?
ลำไย : ทราบหลังจากนั้นค่ะ ทราบว่ามีการเด PO แต่ไม่สามารถรับสินค้าได้ น่าจะมีหลายเหตุผล แต่หลักๆ มีเรื่องการนำส่งสินค้าการผลิตต่างๆ ไปส่งอีกที่นึงเพื่อกระจายสินค้าออก ปัญหาน่าจะเกิดจากคนนึงเป็นคนดีล คนนึงเป็นคนสั่งงาน พอยกเลิกการสั่งงานก็ต้องแก้ไขทั้งหมด โดยไม่รับสินค้าจากซัพพลายเออร์เลย ซึ่งอันนี้ซัพพลายเออร์ไม่ผิดค่ะ
เห็นบอกว่ามีประเด็นเรื่องคุณภาพ?
ลำไย : ไม่น่าใช่นะคะ
อย.ล่ะ?
ลำไย : ตัวอย.ซัพพลายเออร์ถูกต้องนะคะ แต่ไปที่อื่นแล้วมันมีเรื่องการเข้าตรวจโรงงานด้วยซ้ำไป โรงงานการผลิต ตัวที่ต้องไปตอกเรื่องวันที่ เนื่องจากซัพพลายเออร์ส่งมาเป็นขวดเปล่า เวลาไปติดฉลาก จะไปติดอีกที่นึง ซึ่งในแง่กฎหมายมันทำไม่ได้ มันผิด
คุณต่ายกล่าวหาว่าพิมรี่มีการเอาเลขอย.ไปสวมบริษัทที่ไม่ใช่ของเขา จริงมั้ย?
ลำไย : เรื่องนี้ขอไม่ตอบว่าจริงหรือไม่จริงนะคะ แต่มีการผลิตและนำส่งเพื่อกระจายสินค้าอีกโลเกชั่นนึง
ที่บอกว่า 4 โรงงานทั้งหมดที่ดีลกับพิมรี่พาย มีอย.ทั้งหมดมั้ย?
ลำไย : เท่าที่ทราบมี 1 ที่เหลือไม่ทราบ เพราะไม่ได้อยู่นานขนาดนั้น
ของคุณมีมั้ย?
ต่าย : มีค่ะ
กบ : มีค่ะ
อีกสองเจ้าล่ะ?
ต่าย : เหมือนเขาขออย.ทีหลัง อย.เขาเหมือนยังไม่ออก แล้วมาแอบเอาไป ไม่ได้แจ้งเรา
หมายถึงโรงงานอื่นที่ไม่เกี่ยวกับพิมรี่พาย?
ต่าย : อันนี้หนูก็ไม่ทราบว่าเขาทำกันยังไง
กบ : มาตรฐานทุกอย่างเขาใช้โรงงานแม่ประกาศหมดเลย
อีกสองโรงงานมาจากไหน?
ต่าย : โรงงานแถวๆ บ้านต่ายนี่แหละค่ะ แต่เราก็ไม่อยากเอ่ยชื่อเขาเนอะ
ตอนแรกเขาไม่มีอย. แล้วแอบใช้หรือขอยืม?
ต่าย : แอบใช้ค่ะ
ทนายแก้ว : แต่คุณก็ไปกล่าวหาคุณพิมรี่พายเขาอาจไม่ถูก อาจเป็นโรงงานนั้นแอบเอาไปเองหรือเปล่า
ต่าย : เรามีภาพหลักฐาน โรงงานอื่นโพสต์ว่าตัวเองส่งของเยอะมาก เราเซฟข้อมูลทุกอย่างไว้หมดแล้ว โรงงานนี้จะโพสต์ว่าส่งของเป็นขวดเปลือยเข้าอีกโกดังนึงเพื่อสวมฉลากค่ะ
กบ : ระหว่างที่พวกหนูไม่ได้ส่งของเดือนพ.ค. ฉลากที่ทำมาคนละ 2 ล้านชิ้น พวกหนูไม่ได้ใช้ อยู่ที่บริษัทเขาเพื่อมาสวม แต่ทุกโรงงานที่เป็นผู้ผลิตโพสต์เองเลยว่าวันนี้ 2 ล้านขวด วันนี้ 3 ล้านขวด ผลิตไม่ทันเลย เราได้แต่นั่งดูว่าเขาเอาฉลากเราไปสวม ทั้งที่เราไม่ได้ทำให้ ถ้าเผื่อวันนึงเขาเป็นอะไรไป
ต่าย : ถ้ากินแล้วตายมา ความผิดอยู่ที่เรานะ
ทนายแก้ว : ตกลงสินค้าสองล็อตของคุณได้ส่งไปหรือยัง 1 ล้านกับ 7 แสนขวด
กบ : ยังค่ะ
ต่าย : ยังอยู่ที่โรงงาน
ทนายแก้ว : เขาอ้างเหตุผลอะไร ไม่รับสินค้า
ต่าย : เขาไม่ตอบอะไร บอกแค่ว่าคิดว่าส่งมาแล้ว เขาก็เงียบไปเลย ติดต่อไม่ได้อีกเลย