ผู้สื่อรายงานจากรัฐสภาว่า วันนี้ (5 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา ได้ไล่โทรเช็กเสียง ส.ว. ต่อการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่จะมีขึ้นในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ โดย เฉพาะ ส.ว. ที่ประกาศชัดเจนผ่านสื่อว่าจะโหวตเลือกนายกฯ ตามเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎรก่อนหน้านี้ 14 คน พบว่าส่วนใหญ่ ยังคงมีจุดยืนเดิมที่จะโหวตตามเสียงข้างมาก แต่บางส่วนไม่รับสาย มีเพียง นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน ที่ยอมรับว่าได้เปลี่ยนใจไม่โหวตให้ หากไม่ประกาศว่าจะไม่แตะต้องมาตรา 112

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า จากการโทรศัพท์ไล่เช็กกับ ส.ว. วันนี้ (5 ก.ค.) มี 24 คนที่รับสาย โดย มี 8 คน ยืนยัน ไม่โหวตให้ เพราะติดเงื่อนไข การแก้มาตรา 112 , ส่วนอีก 5 คนโหวตให้ ตามเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎร ขณะเดียวกันมี 9 คน ขอตัดสินใจในวันโหวตเลือกฯ และ อีก 2 คน ไม่ตอบคำถาม

สำหรับ ส.ว.หลายคน ที่ไม่โหวตให้ และยังไม่ตัดสินใจ ระบุว่า มีข้อกังวลในเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 และนโยบายเรื่องความมั่นคง อย่าง นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ส.ว.กล่าวว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจ รอดูสถานการณ์ไปเรื่อยๆ เมื่อถึงเวลาต้องชั่งน้ำหนักถึงหลักการและเรื่องนโยบาย ซึ่งโดยหลักการนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็มาตามกฎหมายมาตามรัฐธรรมนูญ แต่ก็ดูเรื่องนโยบายว่าสอดคล้องกับผลประโยชน์ของชาติหรือเปล่า เช่น การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 การขึ้นค่าแรงต่อการลงทุนของต่างประเทศ การอยู่รอดของอุตสาหกรรมไทย เรื่องนโยบายต่างประเทศที่อาจจะสร้างปัญหาให้กับประเทศเพื่อนบ้าน และกับประเทศมหาอำนาจ เป็นต้น รวมถึงอีกหลายประเด็นที่เป็นห่วง ดังนั้นตนจึงยังไม่ตัดสินใจ เพราะเห็นว่าพรรคก้าวไกลก็ปรับนโยบายไปเรื่อยๆ และดูว่าวันสุดท้ายจะมีการชูนโยบายของตนเองให้สอดคล้องกับผลประโยชน์ของชาติมากน้อยแค่ไหน