เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 4 ก.ค. 66 ที่อาคารรัฐสภา นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงภายหลังจบการประชุม เพื่อเลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ทั้ง 2 คน ว่า ตนไม่รู้ตัวเท่าไหร่ว่าจะได้รับการเสนอชื่อ มารู้ตัวเมื่อคืนนี้ คิดว่าพรรคคงเห็นว่าตนอยู่ในสภามานาน และอยู่ในการประชุมสภามาตลอด ดังนั้นปัญหาต่างๆที่เกี่ยวกับสภาผู้แทนราษฎร คิดว่าตนก็เห็นปัญหาเยอะ และฝ่ายนิติบัญญัติเล็กมาก เมื่อเทียบกับฝ่ายตุลาการและฝ่ายบริหาร ครั้งนี้สภาผู้แทนราษฎรต้องคืนชีพ ให้มีศักดิ์ มีศรี เพราะเรื่องของการทำงานตอนนี้มีขีดจำกัด 

เรื่องแรกคือเรื่องงบประมาณ ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรถูกลดงบลงทุกปี และสำนักงานสภาผู้แทนราษฎรที่อยู่ที่อยู่ตามจังหวัดต่างๆ เราจะพยายามขยายให้ครอบคลุมจังหวัดต่างๆ มากยิ่งขึ้น เพื่อให้พี่น้องประชาชนในแต่ละจังหวัดเข้าถึงฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งส.ส.ก็จะได้นำพาพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน เข้ามายังสำนักงานของสภาผู้แทนราษฎร แต่ทั้งนี้ ต้องใช้บุคลากร และงบประมาณอีกจำนวนหนึ่งในการดำเนินการ 

นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ตนมีความพร้อมทำงานเต็มที่ เรื่องปัญหาต่างๆ รวมถึงเรื่องปัญหาสภาฯล่ม และเรื่องการหารือของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งรัฐธรรมนูญปัจจุบันเปิดช่องน้อยมาก ที่ให้ส.ส.ไปสัมผัสกับประชาชน รวมถึงส่วนต่างๆ ดังนั้น ช่องทางที่ส.ส. จะมีโอกาสได้ดูแลประชาชน คือการหารือในสภาผู้แทนราษฎรทุกครั้งเพียง 2 นาทีนั้นมีค่ามากสำหรับส.ส.และประชาชน เบื้องต้นจะเพิ่ม 2 นาทีเป็น 3 นาทีในการหารือเพราะปัญหาต่างๆ มีมากมาย และมีความคิดว่าจะหารือกับ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชาติ รวมถึง นายปดิพัทธ์สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ว่าให้กระทรวงต่างๆ เข้ามาพบปะกับกับส.ส. อย่างน้อย 6 เดือน 1 ครั้ง เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาในพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ ว่ามีปัญหาอะไร ซึ่งส.ส.จะได้นำปัญหามาคุยกับทุกกระทรวงได้ คิดว่าเป็นโครงการใหม่ที่เราจะริเริ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องประชุมร่วมกัน 3 คนก่อน 

เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่า สภาผู้แทนราษฎรภายใต้การนำของทั้ง 3 คน จะไม่เกิดปัญหาสภาฯล่ม นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า คิดว่าขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของรัฐบาล ถ้าฝ่ายรัฐบาลมีการบริหารจัดการสมาชิกหรือเวลาได้  

“ซึ่งผมก็ทำให้สภาฯล่มเยอะ ก็เข้าใจดี พยายามที่จะไม่ให้สภาฯล่ม และมีส.ส.แซวว่า ไม่มีใครทำให้สภาฯล่มแล้วเพราะคนทำให้สภาฯล่มก็ไม่มีโอกาสแล้ว ท่านนายกฯชวน (หลีกภัย) ก็แซวว่าที่ผ่านมา ก็ทำเรื่องไว้เยอะนะ ระวังจะถูกเอาคืน แต่ก็ไม่เป็นไร เราก็ทำหน้าที่ไป  " นายพิเชษฐ์ กล่าว

เมื่อถามถึงการผลักดันกฎหมายต่างๆ ของพรรคก้าวไกล เช่น การเสนอแก้ไขมาตรา 112 สมรสเท่าเทียม หรือสุราก้าวหน้า นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับวิปรัฐบาล ว่าจะเห็นสมควรหรือไม่ กฎหมายที่เข้ามาพิจารณาจะผ่านการกลั่นกรองมาระดับหนึ่งแล้ว และร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่มาจากประชาชนเสนอ ตนยินดี เชื่อว่าประธานสภาฯและรองประธานฯ ทุกคนเห็นความสำคัญของ พ.ร.บ.ฉบับประชาชน เป็นอันดับแรก