เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 4 ก.ค. 66 ภายหลังการแถลงข่าวกรณีตำแหน่งประธานสภาฯ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล , นายวิโรจน์ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ , นางสาวเบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ , นายปิยรัฐ จงเทพ ส.ส.กทม. เดินฝ่าสายฝนออกมาด้านหน้าอาคารรัฐสภา เพื่อไปขอบคุณ และทักทายประชาชนที่มารอให้กำลังใจ
โดยทันทีที่ไปถึงนายพิธาได้เข้าไปไหว้ขอบคุณประชาชนที่ยืนชูป้ายที่มีข้อความให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 พร้อมกับพูดคุยว่า ตอนนี้ฝ่ายประชาธิปไตยได้ตำแหน่งประธานสภา รองประธานสภาทั้ง 2 คนแล้ว ซึ่งสิ่งแรกที่พวกเขาจะทำ คือจะไม่ให้ประชาชนต้องมาตากฝนอีก
จากนั้นนายพิธาได้เดินไปหามวลชนอีกกลุ่มที่นั่งอยู่ใกล้เคียงกัน โดยมวลชนกลุ่มดังกล่าวตะโกนเรียกนายพิธาว่า“นายกฯๆ” จากนั้นนายพิธาเข้าไปพูดคุยพร้อมแจกลายเซ็น และด้วยสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวทำให้ประชาชนกลุ่มนี้ใช้พัด พัดให้กับนายพิธาที่เสื้อเต็มไปด้วยเหงื่อ
ช่วงหนึ่ง นายพิธาได้พยายามสอบถามนายรังสิมันตผื ว่าห้องที่อยู่ด้านหน้ารัฐสภา ตรงที่ประชาชนนั่งไม่เปิดให้เข้าไปหรือ ซึ่งนายรังสิมันต์ กล่าวว่าไม่ได้เปิด ทำให้นายพิธา พูดขึ้นว่า ตนขอรายงานเจ้านายก่อน วันนี้ฝ่ายประชาธิปไตยได้ตำแหน่งประธานและรองประธานสภาฯ ซึ่งผลการเลือกตั้งเป็นไปได้ด้วยดี แสดงให้เห็นถึงความมีเอกภาพ และเมื่อเราได้รองประธานสภาคนที่หนึ่ง คือนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล สิ่งแรกที่เขาจะต้องทำและพูดไว้ชัดเจนคือ “สภาเป็นของประชาชน”
“ครั้งหน้าหากประชาชนมากันอีก จะต้องมายืนตากฝนแบบนี้ และห้องข้างหลังจะต้องเข้าไปนั่งได้ ทำพื้นที่ให้เหมือนรัฐสภาสากลที่มีการต้อนรับประชาชน เพราะงบประมาณที่สร้างสภาผู้แทนราษฎรก็เป็นเงินที่มาจากภาษีประชาชนเพราะฉะนั้นก็ไม่ควรที่จะมายืนตากฝนแบบนี้ นี่จึงเป็นภารกิจแรกๆ และเชื่อว่าประธานและรองประธานสภาจะบริหารจัดการให้” นายพิธา กล่าว
นายพิธา กล่าวต่อว่า จะต้องดูแลความปลอดภัยของระบบรัฐสภา เพราะระบบตรวจสอบคัดกรองอาวุธ เท่าที่ดูมายังไม่ค่อยดีมาก สิ่งเหล่านี้จึงเป็นวาระแรกๆ ที่หน่วย 3 ป.แบบใหม่ คือประสิทธิภาพ โปร่งใส และประชาชน ที่ไม่ได้อยู่นอกรั้วสภาฯ ไม่ได้ยืนตากฝนนอกสภาฯ ซึ่งไม่ได้พูดไปเฉยๆ แต่เป็นระบบประชาธิไตยในรัฐสภาแบบนี้ ที่ต้องมีห้องสมุดให้ประชาชน และให้ประชาชนเข้าไปนั่งรออ่านหนังสือกันได้ มีพื้นที่รองรับคนที่มาร้องเรียน เพื่อให้สภาหาทางออกให้ ยืนยันว่าจะจัดการให้แน่นอนทั้งอิสรภาพ และความปลอดภัยของประชาชนที่จะต้องยกระดับขึ้น
จากนั้นนายพิธาและแกนนำพรรคได้กลับเข้ามาในอาคารรัฐสภาเพื่อประชุมกรรมการบริหารพรรค โดยประชาชนได้ร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธาให้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงที่นายพิธาเดินทางมาถึงมีประชาชนวิ่งเข้าไปสวมกอดด้วยท่าทีดีใจและร้องไห้ บางคนเข้าไปสวมกอดแกนนำพรรคแสดงความยินดีที่ประสบความสำเร็จได้รับเลือกเป็นส.ส.