เอกชนประสานเสียงหนุนประธานสภาคนใหม่ สร้างความเชื่อมั่น ลุ้นเลือกนายกฯไร้อุปสรรค
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทยเปิดเผยว่า ภาคเอกชนพอใจการเสนอแต่งตั้งนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ถือว่าสร้างความเชื่อมั่นทั้งนักลงทุนประชาชน นักธุรกิจ เนื่องจากเป็นผู้อาวุโส และเคยดำรงตำแหน่งประธานสภา มาก่อน มีประสบการณ์ ทำให้เกิดกระแสตอบรับที่ดีต่อทุกภาคส่วน ทั้งการลงทุน ตลาดหุ้น ความเชื่อมั่นเหล่านี้ดีขึ้นระดับหนึ่ง เมื่อได้มี ส.ส.เข้ามาทำหน้าที่
สำหรับสถานการณ์การเมืองยกสองต้องจับตามองคือ การเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีจะยืดเยื้อหรือไม่ ในการจัดตั้งรัฐบาลภาคธุรกิจไม่อยากเห็นกลุ่มผู้ชุมชนบลงถนนมาประท้วงยิ่งซ้ำเติมต่อระบบเศรษฐกิจหากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ไม่ได้เสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี แต่หากเป็นฝั่งพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งเป็นนักธุรกิจ ผู้มีประสบการณ์ภาคเอกชนยังพอมีความหวัง สิ่งสำคัญคือ รัฐบาลใหม่ต้องเร่งสรรหามือเศรษฐกิจผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริงเข้ามาทำงาน เมื่อเสนอรายชื่อ ประชาชน นักลงทุนทั้งในและต่างชาติ แค่เห็นชื่อกระแสตอบรับทันที เพราะมีประสบการณ์ทำงานจะทำให้สร้างความเชื่อมั่นกับทุกฝ่าย เพื่อเข้ามาแร่งแก้ปัญหาหนี้ การส่งออกชะลอตัว การเติมกำลังซื้อให้รายย่อย
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจกล่าวว่า หลังได้เลือกตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ต้องต้องตามดูการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีจะเป็นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ตามมติ 8 พรรคร่วมหรือไม่ ยอมรับว่า นายพิธา ต้องลุ้นการคัดเลือกจากสมาชิกวุฒิสภาด้วย เพราะตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา เสียงจาก ส.ว.ไม่เห็นด้วย และจะไม่โหวตให้นายพิธา ภาคเอกชน ภาคการลงทุนเฝ้าจับตาดูในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่จึงไม่อยากให้ขั้นตอนการจัดตั้งรัฐบาลใช้เวลงนานมากจนเกินไป มองว่ารัฐบาลใหม่นาจะจัดตั้งได้โดยเร็วเพื่อให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อไปได้
นายภราดร เตียรณปราโมทย์ รองผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า การตัดสินใจเลือกประธานสภาฯคนกลางเป็นการตัดสินใจเพื่อรักษาเอกภาพและมิตรภาพของ 8 พรรคร่วมเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่า แสดงให้เห็นถึงความหนักแน่น ความคงเส้นคงวาของพรรคก้าวไกลที่ยึดหลักการสำคัญกว่าตัวบุคคล ทั้งนี้จากการพูดคุยกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ได้ให้การยอมรับหลักการทุกอย่าง ทั้งการบริหารงานสภาให้โปร่งใส มีประสิทธิภาพ รวมถึงการดูแลกฎหมายและญัตติ โดยเฉพาะกฎหมายที่สำคัญ 4 ข้อที่ได้มีการตกลงร่วมกัน
