SET ปิดช่วงเช้าวันนี้(4 ก.ค.)ที่ 1,517.46 จุด เพิ่มขึ้น 10.62 จุด (+0.70%) มูลค่าซื้อขายราว 24,320 ล้านบาท การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและแดนลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,566.14 จุด และต่ำสุด 1,555.76 จุด
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ดีดขึ้นมแรงแต่ยังแกว่งกรอบแคบเหตุไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาเข้ามาหนุนเพิ่มเติม หลังจากการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นไปตามคาดการณ์ ทำให้ตลาดหันไปสนใจการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์ข้างหน้า ขณะที่ตลาดเริ่มเล่นเก็งงบการเงินไตรมาส 2/66 ของบริษัทจดทะเบียนที่กำลังจะทยอยประกาศออกมา ส่งผลให้หุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมและหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภคปรับตัวขึ้น เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการณ์จะเติบโตได้ดี รวมทั้งกลุ่มไฟแนนซ์ แม้จะมีความเสี่ยงเรื่อง NPL แต่ตลาดมองว่ากำลังซื้อจะได้รับผลบวกจากนโยบายขึ้นค่าแรงของพรรคก้าวไกลจจึงเข้าซื้อระยะสั้นเพื่อเก็งกำไร
โดยแนวโน้มตลาดช่วงบ่ายคาดว่าจะยังค่อยๆ ขยับฟื้นตัว เนื่องจากตลาดเห็นภาพการประนีประนอมระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย รวมทั้งรอติดตามทิศทางผลประกอบการของกลุ่มธนาคาร และการเลือกนายกรัฐมนตรีซึ่งจะเกิดในระยะเวลาใกล้ๆ กันในสัปดาห์หน้า ให้แนวต้าน 1,530-1,560 จุด แนวรับ 1,489 จุด
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,437.46 ล้านบาท ปิดที่ 109.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,322.03 ล้านบาท ปิดที่ 133.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,153.01 ล้านบาท ปิดที่ 214.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 879.24 ล้านบาท ปิดที่ 161.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 708.01 ล้านบาท ปิดที่ 27.50 บาท ลดลง 0.25 บาท