วันที่ 4 ก.ค. 66 ที่รัฐสภา นายอดิศร เพียงเกษ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการตกลงกันระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ในเรื่องประธานสภา โดยนายอดิศรกล่าวอย่างติดตลกว่า อย่าให้เป็นทูนอร์ เพราะแกเป็นวันนอร์

เมื่อถามว่า ได้ประเมินหรือไม่ว่า พรรครัฐบาลเดิมจะส่งใครชิงแคนดิเดตประธานสภา นายอดิศร กล่าวว่า ไม่บังอาจไปก้าวล่วงก็เป็นเพื่อนกันทั้งนั้น

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะส่งใครเป็นรองประธานสภา นายอดิศรกล่าวว่า ตนไม่ทราบแต่ไม่ใช่ตนแน่นอน แต่มั่นใจว่าเป็นได้ทุกคนผู้หญิงก็เป็นได้ เพราะ น.ส.ลลิตา ฤกษ์สำราญ ก็เคยเป็นรองประธานสภาที่เป็นผู้หญิงมาแล้วเช่นกันแต่ก็ชัวอยู่แล้วตามโพล พร้อมกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะมีการประชุมก่อนโหวตประธานสภาในเวลา 08:30 น.

เมื่อถามถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยไม่ยอมให้ตำแหน่งประธานสภา กับพรรคก้าวไกลที่มี 151 เสียง  เหตุใดจึงยอมให้พรรคประชาชาติที่มี 9 เสียง ได้ตำแหน่งประธานสภา นายอดิศร กล่าวว่า ตนมองความเหมาะสมทางการเมืองในการที่จะเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล 

เมื่อถามว่า หากตำแหน่งประธานสภา พรรคเพื่อไทยยังไม่สามารถยอมพรรคก้าวไกล ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะมีอะไรมาการันตีหรือไม่ นายอดิศรกล่าวว่า อย่าพึ่งไปคาดการณ์ขนาดนั้น เพราะพรรคเพื่อไทยพรรคเพื่อไทยสนับสนุน“พิธาเป็นนายกฯล้านเปอร์เซ็นต์” เมื่อวานตนก็ได้เข้าไปทักทายภายหลังรัฐพิธีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “สวัสดีครับท่านนายกฯ”

เมื่อถามว่า จากนี้พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยจะจับมือกันไปได้ด้วยดีแล้วใช่หรือไม่ นายอดิศรกล่าวว่า “ได้แล้วครับๆ” และที่ผ่านมาก็จับมือด้วยดีมาโดยตลอด ทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ

เมื่อถามว่า ส.ส.ภาคอีสานเห็นพ้องตามมติพรรคใช่หรือไม่ นายอดิศรกล่าวว่า เป็นไปตามแถลงการณ์ พร้อมมองว่าเป็นนิมิตรหมายอันดี เป็นการประลองกำลัง และการประลองนี้ก็ได้จบสิ้นลงแล้ว พร้อมกล่าวต่อว่า ปัญหาการเมืองในรัฐสภานั้น เป็นที่โต้เถียงกัน ที่มีทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ปัญหาไม่มีที่สิ้นสุด กฎหมายแต่ละฉบับจะติดเข้ามา ในอนาคตไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไร แต่หากครองเสียงข้างมากในรัฐสภาได้ ก็ไม่มีปัญหา ประชาชนคาดหวังว่า เมื่อไหร่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ และมีนายกรัฐมนตรี