มท.เร่งทำหนังสือรับรองช่วยเหลือ “น้องทิพย์” เรียนต่อประเทศจีน หลังจากเป็นข่าวสื่อจีนสนใจทำให้มหาวิทยาลัยผ่อนปรนให้เป็นกรณีพิเศษ

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 น.ส.รฎาศิริ ศิริคช ครูสอนภาษาไทย โรงเรียนอนุตรศาสตร์ จ.ระยอง เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.กรองทิพย์  ไห่ทอง อายุ 19 ปี เยาวชนไร้สัญชาติ ซึ่งกำลังเรียนจบชั้น ม.6 จากโรงเรียนอนุตรศาสตร์ ได้รับทุนการศึกษาสาขาเทคโนโลยีการวัดคุมและเครื่องมือวัด จาก Qingdao University of Science & Technology (มหาวิทยาลัยศาสตร์และเทคโนโลยีชิงเต่า) มณฑลซานตง ประเทศจีน จึงเข้ายื่นคำร้องกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายซึ่งเป็นภูมิลำเนาตามบัตรประจำตัวของน.ส.กรองทิพย์ เพื่อดำเนินการขอหนังสือเดินทางสำหรับบุคคลไร้สัญชาติ ว่ารู้สึกดีใจที่ได้รับแจ้งความคืบหน้าว่าผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้เสนอเรื่องไปยังกระทรวงมหาดไทยตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา

“ที่จริงเราก็ถอดใจแล้วว่าน้องทิพย์อาจจะไม่ได้ไปเรียนในปีนี้พร้อมๆกับเพื่อน แต่ด้วยความที่ อยากจะลองดูให้สุดๆ สักครั้ง ก็เลยต้องพาคุณพ่อคุณแม่เขาไปกรุงเทพฯ ไปติดต่อที่สถานทูต ซึ่งพบว่ามีอุปสรรคเยอะมากๆ แต่โชคดีที่ได้รับคำแนะนำจาก ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนจิตรา สายสุนทร จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทำให้เราจับทิศทางถูก และยังได้พูดคุยกับครูพี่หม่อง ทองดี ซึ่งเป็นอดีตเด็กไร้สัญชาติที่ไปแข่งขันเครื่องบินกระดาษ จึงทราบว่าต้องไปเริ่มต้นที่ภูมิลำเนาตามบัตร” น.ส.รฎาศิริ กล่าว

ครูโรงเรียนอนุตรศาสตร์ กล่าวว่า เมื่อไปถึงเชียงรายปรากฏว่าเห็นทางสว่างมากเมื่อได้พบกับเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา (พชภ.) ที่ให้ความช่วยเหลือน้องทิพย์เป็นอย่างดี เพราะตอนแรกก็ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นอย่างไร แต่พยายามเตรียมเอกสารไปให้พร้อม ที่สำคัญคือเมื่อขึ้นไปที่ศาลากลางจ.เชียงราย ซึ่งเราถือหนังสือเข้าไปเพื่อที่จะขอพบผู้ว่าฯ ก็ได้รับคำแนะด้วยดีจากหน่วยงานราชการ

“ตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยชิงเต่าก็ได้เห็นข่าวของทางเมืองไทยแล้วก็มีสื่อมวลชนของจีน นำเรื่องราวไปลงในเว็บไซต์ของจีน ทางมหาวิทยาลัยเห็นก็เลยแจ้งกลับมาทางโครงการ ว่าให้น้องทิพย์เร่งทำเอกสารให้เสร็จแล้วก็จะดำเนินการทำวีซ่าให้ทีหลังเป็นกรณีพิเศษ ตามหลังเพื่อนๆ ที่ตอนนี้ได้ได้ยื่นเรื่องทำวีซ่าไปแล้ว และที่ 3 กรกฎาคมนี้ทางโครงการได้จัดค่ายเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนทุนที่จะไปเรียนซึ่งน้องทิพย์ได้เข้าร่วมค่ายทำกิจกรรมเพื่อเตรียมความพร้อมนี้ด้วย ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนจริงๆที่ช่วยเหลือในครั้งนี้” น.ส.รฎาศิริกล่าว

ทั้งนี้ น.ส.กรองทิพย์ ไห่ทอง อายุ 19 ปี ชาติพันธุ์ไทใหญ่ อพยพเข้ามาจากรัฐฉาน ประเทศพม่าเมื่อ 19 ปีก่อน โดยบิดามารดา ได้พา น.ส.กรองทิพย์เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เมื่อเป็นทารกอายุเพียง 3 เดือน เนื่องจากบิดาต้องหนีจากการถูกจับไปเป็นทหารและลูกหาบให้กองกำลังชาติพันธุ์ในรัฐฉาน จึงเข้ามาอยู่ที่จังหวัดเชียงราย  จากนั้นครอบครัวได้ย้ายไปทำงานที่จังหวัดระยอง ซึ่งน.ส.กรองทิพย์ได้ติดตามไปด้วยและได้เรียนหนังสือที่จังหวัดระยอง จนเรียนจบชั้นมัธยมและได้รับทุนไปเรียนต่อที่ประเทศจีน ปัจจุบันบิดามารดา น.ส.กรองทิพย์มีอาชีพค้าขายอยู่ที่จังหวัดระยอง