วันที่ 3 ก.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกเฟซบุ๊ก Nutthapong Larbboonsarp โพสต์ข้อความระบุว่า...

วันก่อนโน้นมีคนมาบอกผมว่ารู้ยังว่าสนามหลวงเขาปิดไม่ให้คนเข้าไปใช้งานแล้ว ผมก็เลยถามเขากลับไปว่าปิดตั้งแต่เมื่อไหร่ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย เขาก็บอกผมว่าในทวิตเตอร์พูดกันออกครึกโครมว่า "เขา" เอาที่คืน แล้วก็ตามด้วยการบ่นกระปอดกระแปดว่าประชาชนไม่มีความสำคัญ

ผมเลยถามเขาว่าเขาไปสนามหลวงครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เพราะผมไปแถวนั้นอยู่เรื่อย เขาบอกว่าไม่ได้ไปมาหลายปีแล้ว ผมก็ถามต่อว่าแล้วรู้ได้อย่างไรว่าที่พูดกันในทวิตเตอร์นั้นเป็นจริง ปรากฏว่าอีกฝ่ายตอบไม่ได้ นอกจากบอกว่าเห็นเขาล้อมรั้ว

คุยกับคนแบบนี้เปลืองพลังงานดีจังครับ

เช้านี้ผมมานำชมนิทรรศการสั้น ๆ ที่พิพิธภัณ​ฑ​สถ​านแห่งชาติ​พระนคร​

ขอประชาสัมพันธ์​เลยแล้วกันครับ

ใครที่มาธุระแถวนี้ จะเข้าพระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว ชมพิพิธภัณฑ์​ ไหว้ศาลหลักเมือง เข้าวัดมหาธาตุ ฯลฯ จอดรถที่สนามหลวงได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรทั้งสิ้น ช่วงเช้าและช่วงเย็นมาวิ่งออกกำลังกายหรือเดินเล่นได้เต็มที่ ผมมาวิ่งหลายครั้งแล้ว ไม่เคยมีใครห้ามสักที จะมาเดินลอดอุโมงค์ที่เขาจัดระเบียบนักท่องเที่ยวและรถทัวร์แล้วด้วยก็ได้ครับไม่มีใครว่า เพราะเขาเปิดให้จอดรถมาตั้งนานแสนนานมาแล้ว ไม่ได้เพิ่งเปิด

เวลาที่เราไปเที่ยวโบราณสถานสำคัญในต่างประเทศแล้วเห็นเขาจัดอะไร ๆ เป็นระเบียบเรียบร้อยดี วันนี้เราก็มีแล้วอย่างเขา

บ้านเมืองเราเจริญขึ้นด้วยแรงกายแรงใจของคนที่ลงมือทำจริง ๆ ไม่ใช่น้ำลายของคนที่พยายามโฆษณาชวนเชื่อ หรือเสพแต่ข่าวปลอมจนหลอนครับ

โลกไม่ได้แคบเท่าจอมือถือ