ครูสาวสอนภาษาจีนชาวกาฬสินธุ์วัย 36 ปีเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้าเป็นรายได้เสริมหลังเลิกงาน ส่งขายครบวงจรทั้งพันธุ์ทั้งไข่และตัวตั๊กแตน มีรายได้เดือนละกว่า 5 หมื่นบาท ระบุบริโภคได้ทุกเพศทุกวัยวิตามินสูง ดูแลไม่ยากอย่างที่คิด เลี้ยงง่ายโตไวรายได้ดีจับเงินแสนสบาย
วันที่ 2 ก.ค.66 ที่ครูจีฟาร์มเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้า ต.เหนือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายสำลี ศรีเจริญ อายุ 57 ปี พร้อมนางสาววจี ศรีจรัญ หรือ ครูจี อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 ม.6 ต.เหนือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ลูกสาว และครอบครัวกำลังให้คำปรึกษาแนะนำให้ความรู้ และสาธิตวิธีการเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้าให้กับผู้ที่มีความสนใจในการนำไปประกอบอาชีพเสริมเพิ่มรายได้
นายสำลี ศรีเจริญ กล่าวว่า ครอบครัวทำการเกษตรมาประมาณ 10 ปี ด้วยการทำนาเป็นหลัก ทั้งนาปีและนาปรัง หลังว่างเว้นจากทำนาแล้ว มีอาชีพเสริมคือเผาถ่านขาย มีรถไถนาออกรับจ้างไถนาให้กับชาวบ้านในท้องถิ่น และมีไร่ปลูกมันสำปะหลัง โดยรับเหมาเช่าพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังควบคู่ไปกับการทำนา ทำให้มีชีวิตพออยู่ได้ไม่ลำบากมากนัก ส่วนการหันมาเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้า พันธุ์โมจีนนั้น เลี้ยงง่ายโตไวทันใจดี เพราะตั๊กแตนเป็นสัตว์กินพืชจำพวกหญ้า เช่น หญ้าเนเปียที่มีโปรตีนสูงต้องเตรียมไว้ให้เพียงพอต่อการเจริญเติบโตในช่วงวัยของตั๊กแตน เพื่อให้มีความสมบูรณ์เหมาะกับการบริโภคที่ส่วนมาก จะนำไปทอดกรอบเป็นเครื่องเคียง อาหารกินเล่นที่มีโปรตีนสูงราคาไม่แพง บริโภคได้ทุกวัย
นายสำลี กล่าวต่อว่า สำหรับขั้นตอนการเลี้ยงนั้นคือ ต้องมีมุ้งหรือตาข่าย ที่มีสภาพโปร่งแสง ทำให้อากาศถ่ายเทดีจะทำให้ตั๊กแตนโตเติมวัยอย่างรวดเร็ว สิ่งที่สำคัญที่สุดเน้นความสะอาดเป็นหลัก ตั๊กแตนเป็นแมลงที่มีศัตรูคือมด และสัตว์ปีก และสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง ชอบอยู่กลางแจ้งเวลามีฝนตกต้องนำผ้าพลาสติกหรือแผ่นยางพารานำมาคลุมหรือทำเป็นหลังคา ทำให้การดูแลเลี้ยงดูง่ายขึ้น ถ้าวางที่พื้นดินทำให้มุ้งมีความสกปรก ให้ห่างไกลจากสารเคมีทั้งหมด เพราะอาจจะทำให้ตั๊กแตนตายได้ ถ้ามีกลิ่นจากสารเคมี
โดยหลังจากเลี้ยงไปประมาณ 25 วันก็สามารถขายเป็นตัวที่นำไปประกอบอาหารได้เลย ราคา 500 บาทต่อกิโลกรัม ถ้าขายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ประมาณ 35 วันเพราะต้องให้วางไข่ในภาชนะที่เตรียมไว้หลังจากผสมพันธุ์จำหน่ายไข่ตั๊กแตนโดยทางฟาร์มขายในกิโลกรัมละ 10,000 บาท ขายขีดละ 1,000 บาท โดยไข่ตั๊กแตนนั้นจะมีทั้งตัวผู้และตัวเมียคละเคล้ากัน ในช่วงฟักตัวประมาณ 15 วันก็แยกเพศได้ โดยมีจุดสังเกตที่เพศเมียจะตัวใหญ่กว่าเพศผู้ ต้องเฉลี่ยให้พอเหมาะกับสถานที่ทำการเพาะเลี้ยงระหว่างเพศผู้และเพศเมีย ในส่วนของการจำหน่ายนั้นจะทำการขายภายในหมู่บ้าน ซึ่งก็ไม่เพียงพอ ส่วนอีกช่องทางหนึ่งก็จะขายออนไลน์ โดยลูกสาวและลูกเขยเป็นผู้จัดส่งให้ลูกค้า
ด้านนางสาว วจี ศรีจรัญ กล่าวว่า ปกติมีอาชีพเป็นครูสอนภาษาจีนในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในตัวเมือง จ.กาฬสินธุ์ ในส่วนของความสนใจเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้าพันธุ์โมจีนนั้น สืบเนื่องมาจากการเล่นโซเชียลพบเพื่อนในเฟสบุ๊คที่เป็นลูกศิษย์ที่อยู่ จ.สุรินทร์ เลี้ยงอยู่ก่อนแล้ว จึงมีความสนใจและต้องการนำมาเลี้ยงดูเองบ้าง หลังลูกศิษย์ให้คำปรึกษาว่า สามารถเลี้ยงได้ในทุกพื้นที่ เลี้ยงง่ายโตไว มีแค่ให้หญ้าเป็นอาหารซึ่งที่บ้านก็มีไร่นาที่มีหญ้าจำพวก หญ้าเนเปียไว้อยู่แล้ว จึงทดลองเลี้ยงดู หลังจากเลี้ยงไปประมาณเดือนเศษ ตั๊กแตนที่เลี้ยงก็โตเต็มวัยพร้อมออกจำหน่ายให้กับผู้บริโภคที่มีความชื้นชอบในรสชาติ ในส่วนการตลาดในช่วงนี้ ตั๊กแตนไม่พอจำหน่ายให้ทันต่อความต้องการของตลาดทั้งในส่วนของไข่และพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ หรือในส่วนของตัวตั๊กแตนเอง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกที่เลี้ยงลงทุนประมาณ 7,000 บาท หลังจากทดลองเลี้ยงดูเดือนแรกมีรายได้ประมาณ 4 หมื่นกว่าบาท ขายครบวงจรทั้งพันธุ์ทั้งไข่และตัวตั๊กแตนเอง ถ้ามีสนใจที่จะนำไปเลี้ยงเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลักสามารถเข้าไปศึกษาได้ที่ เพจปาทังก้ากาฬสินธุ์ ครูจีฟาร์ม หรือเข้ามาดูที่ฟาร์มครูจีฟาร์มเลย สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0-8858-2866-9 , 0-8089-7508-9