วันที่ 2 ก.ค.66 ที่ทำการพรรคก้าวไกล ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ได้มีการประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาล โดยแกนนำแต่ละพรรคทยอยเดินทางเข้าร่วม นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกฯ  นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่มาพร้อมกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายวันมูฮะหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ , นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นายปิติพงษ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม เป็นต้น

จากนั้นเมื่อเวลา 12.00 น.นายพิธา พร้อมด้วยแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงข้อสรุปเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างพรรก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย โดยนายพิธา กล่าวว่า ที่ประชุม 8 พรรค มีการพูดคุยกันบ้างเล็กน้อย ซึ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยดีและมีความคืบหน้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ต้องให้เกียรติพรรคที่ยังต้องมีการพูดคุยกันอยู่ 

เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกล รับได้หรือไม่หากจะต้องรอข้อสรุปจากพรรคเพื่อไทยไปเรื่อยๆ  นายพิธา กล่าวว่า ก็ไม่ได้รอเรื่อยๆ เราให้เกียรติพรรคเพื่อไทย ยังพอมีเวลาอยู่ โดยปกติแล้วทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไปและเป็นขั้นเป็นตอน เราไม่ควรเปิดประเด็นใหม่ เพราะมันจะกระทบกับการเจรจา ควรโฟกัสประเด็นที่มีอยู่  และหากทำให้ประชาชนสับสนก็ต้องขออภัยเรามีความปรารถนาดีตั้งใจจริง ในการจัดตั้งรัฐบาลและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน  

เมื่อถามว่าหากมีการเสนอชื่อบุคคลอื่นเป็นประธานสภาฯต่างจากที่ตกลงกันไว้ นายพิธา กล่าวว่า อย่าเปิดประเด็นใหม่ การคาดการณ์ประเด็นใหม่อาจกระทบกับการจัดตั้งรัฐบาลและสร้างความสับสนให้ประชาชน  รวมถึงความมั่นใจในสังคม เช่น เรื่องตลาดหุ้นด้วย

เมื่อถามย้ำว่าหาข้อสรุปที่ได้ไม่ตรงกันจะทำอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า ไม่อยากให้เปิดประเด็นใหม่ทุกอย่างมีกระบวนการอยู่

ด้านนพ.ชลน่าน กล่าวว่า คณะเจรจา 2 ฝ่าย ได้แจ้งความคืบหน้าในการหารือกันอย่างไม่เป็นทางการให้ที่ประชุมรับทราบ  แต่เนื่องจากพรรคเพื่อไทยมีกระบวนการทำงานหลากหลายของคนที่มาทำงานร่วมกันมากมาย และมีความเห็นต่างมากกับการทำงานภายในพรรคที่ต้องอาศัยข้อบังคับพรรค ซึ่งเป็นกระบวนการภายใน และเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องฟังความเห็นของสมาชิกพรรค เราจึงแจ้งต่อที่ประชุมในวันเดียวกันนี้ว่าจะต้องมีการเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของพรรคเพื่อไทย เป็นการภายในในวันที่ 3 ก.ค.นี้ ทั้งนี้ จะต้องมีการยึดเจตจำนงการจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยให้ได้ ซึ่งเรายังยึดมั่นแนวทางนี้อยู่ ยืนยันว่าเราจะร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาล ยึดหลักทุกฝ่ายทุกภาคไม่ใช่เฉพาะพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ถือเป็นทางร่วมที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน  และหากข้อสรุปไม่เป็นไปตามที่ประชาชนคาดหวังก็จะกระทบต่อพรรคร่วมและการจัดตั้งรัฐบาล มั่นใจว่าวันที่ 3 ก.ค.เวลา 12.00 น.จะได้ข้อสรุปที่ดีแน่นอน และเป็นประโยชน์ต่อการจัดตั้งรัฐบาล 

เมื่อถามว่าจะมีการเสนอชื่อประธานสภาฯคนอื่นโดยให้พรรคการเมืองขั้วตรงข้ามเป็นผู้เสนอชื่อแทนพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่าตอบยาก แต่มั่นใจว่าทุกอย่างจะได้ข้อสรุปที่ดี ก่อนวันที่ 4 ก.ค. 

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า กระบวนการขอความเห็นร่วมของพรรคเพื่อไทยเป็นไปตามข้อบังคับ แม้จะมีความเห็นต่าง แต่ก็ต้องมีข้อสรุปร่วมกันออกมามันใจว่าความเห็นร่วมกันจะเป็นไปตามแนวทางที่เคยทำบันทึกความเข้าใจกันไว้  ส่วนกลัวว่าจะมีการฟรีโหวตเกิดขึ้นหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า  ถือเป็นมุมมองที่มีความหลากหลาย แต่ความเป็นพรรคมีความสำคัญที่สุดถือว่ามีความสำคัญที่สุด

ขณะที่นายวันมูฮะหมัดนอร์  กล่าวถึงกรณีพรรคประชาชาติยังอยากได้ตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่สอง ในฐานะพรรคอันดับสามหรือไม่ ว่า พรรคประชาชาติ ต้องการตั้งรัฐบาลเพื่อประชาชน ถ้าสามารถจัดตั้งรัฐบาลเพื่อประชาชนได้ก็ยินดีเสียสละในเรื่องต่างๆ ได้ ขณะนี้ 8 พรรคมอบให้พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ใช้เวลาที่เหลืออยู่ 40 กว่าชั่วโมงให้เป็นเวลาแห่งชัยชนะของประชาชน ไม่เช่นนั้น ฝ่ายที่ไม่ใช่ประชาธิปไตยพร้อมจะแทรกเข้ามา และหากเกิดข้อผิดพลาดอะไรขึ้นมาประชาชนอาจไม่ให้อภัยพวกเราอีก ฉะนั้นเวลาที่เหลืออยู่น้อยในขณะนี้เราต้องทำให้ได้ เวลาไม่ใช่เงื่อนไข แต่หัวใจความเสียสละเพื่อประชาชนสำคัญยิ่งกว่า