เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 2 ก.ค. 66 ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคก้าวไกล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่มีการประชุมหารือของ 8 พรรคร่วมรัฐบาล ภายในพรรคก้าวไกล ปรากฎว่า ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เดินทางมาเพื่อนำหนังสือยื่นเรื่องต่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ที่บริเวณหน้าที่ทำการพรรค เพื่อขอทราบจุดยืนของพรรคก้าวไกลต่อแนวคิดการเปลี่ยนแปลงวันชาติ สืบเนื่องจากการอภิปรายของนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ในเวทีเสวนาหัวข้อ "ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรัฐธรรมนูญ" ณ หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา

โดยมีเนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า "รอบนี้ฟ้าใหม่ ไม่ว่าประธานสภาก็คงจะไม่ใช่คนเดิม รวมถึงนายกรัฐมนตรี ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าจะชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เราจะได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง และเราจะได้เฉลิมฉลองวันที่ 24 มิถุนายน ในฐานะวันชาติด้วยกัน" นั้น ถ้อยความดังกล่าวได้สร้างความไม่สบายใจให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยจำนวนมากว่า จะเป็นการสร้างเงื่อนไขเพื่อนำไปสู่การล้มล้าง และสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นกับบ้านเมืองและคนในชาติหรือไม่ 

 

ซึ่งแม้ในภายหลังนายรังสิมันต์ จะให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า เป็นความเห็นส่วนตัว และสิ่งที่พูดก็ไม่ต่างจากข้อมูลของนักประวัติศาสตร์คนอื่นๆ นั้นก็ยิ่งเป็นตอกลิ่มเพิ่มความขัดแย้ง เติมฟื้นเข้ากองไฟ และหากพรรคก้าวไกลจะอ้างว่า ข้อมูลจากนายรังสิมันต์ เป็นความเห็นส่วนตัว ยังไม่ใช่จุดยืนของพรรค พรรคก็จำเป็นต้องมีมาตรการกำกับดูแลให้สมาชิกพรรคดำเนินการใดๆ ที่ไม่เป็นไปตามมติพรรค โดยเฉพาะนายรังสิมันต์เป็นสมาชิกที่มีบทบาทสำคัญในพรรค การดำเนินการหรือแสดงความเห็นใดๆ สาธารณชนย่อมพิจารณาว่าเป็นท่าที และจุดยืนของพรรค และขอให้มีการชี้แจงอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรทั้งนี้ ศปปส.จะดำเนินการทุกวิธีทาง ที่จะสกัดกั้นการบ่อนทำลายสถาบันหลักของชาติ

ขณะที่ กลุ่มประชาชนใส่เสื้อสีส้มที่อยู่บนระเบียงชั้นสอง ได้ตะโกนลงมา ไล่ให้กลับไป ถามว่ามาทำไม “นายพิธายังไม่ได้เป็นนายกฯจะมาเอาอะไร” และ กลุ่ม ศปปส.เอง ก็ได้ตะโกนตอบโต้กลับไปเช่นเดียวกัน ว่า  “ไหนว่าประชาธิปไตย ทำไมไม่ฟังผม” ทั้งนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง มาเฝ้าสังเกตการณ์ เพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้บานปลาย

จากนั้น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้เป็นตัวแทนในลงมารับหนังสือจาก ศปปส. พร้อมกล่าวว่า จุดยืนของเรา คือยืนยันว่าเรายึดระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งเป็นนโยบายหาเสียงของเรามาตลอด และเรายืนยันในเรื่องของการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งทุกข้อกฏหมายหากลองไปศึกษาในรายละเอียด เราไม่ได้ต้องการยกเลิก แต่เราได้เสนอในเรื่องของการแก้ไข ในส่วนของนายรังสิมันต์เอง ก็พูดตามข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ พร้อมย้ำว่า เราพยายามเป็นพรรคการเมืองของประชาชนทุกคน