นครพนม ส.ส.เดือน มนพร เจริญศรี ส.ส. เขต 2 พรรคเพื่อไทย แชมป์ 5 สมัย นำ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน เล็งสานต่อโครงการธนาคารน้ำแก้ภัยแล้ง พัฒนาเศรษฐกิจการค้าชายแดนไทยลาว ผ่านสะพานมิตรภาพไทยลาว 3 นครพนม - คำม่วน เพิ่มตัวเลขเศรษฐกิจหลังจัดตั้งรัฐบาล มั่นใจพรรคเพื่อไทย จับมือพรรคก้าวไกล จัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ ด้วยเสียงประชาธิปไตย
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2566 ดร.มนพร เจริญศรี หรือ ส.ส.เดือน ส.ส. เขต 2 พรรคเพื่อไทย แชมป์ 5 สมัย เปิดเผยว่า วันนี้ได้มีโอกาสนำคณะ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย รวมถึง คณะ ลงพื้นที่ พบปะชาวบ้าน ในพื้นที่ จ.นครพนม ถึงแม้การจัดตั้งรัฐบาลยังไม่เรียบร้อย แต่ต้องเตรียมพร้อมขานรับนโยบายในการดูแลประชาชน ตามที่ได้เคยลงพื้นที่ปราศรัย ชูนโยบาย เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคอีสาน เกี่ยวกับการแก้ปัญหาภัยแล้ง รวมถึงน้ำท่วม จึงได้มีโอกาสมาติดตามดูความสำเร็จของโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน ของ อบต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม ที่เป็นต้นแบบประสบความสำเร็จ สามารถช่วยเหลือเกษตรกรมีน้ำในการอุปโภคบริโภค รวมถึงทำการเกษตร พร้อมที่จะนำเป็นนโยบายพรรคเพื่อไทย หลังจัดตั้งรัฐบาล จะมีการนำมาต่อยอดพัฒนาดูแลช่วยเหลือประชาชนทันที
นอกจากนี้ ยังได้เดินทางไปร่วมหารือกับด่านศุลกากร และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ที่สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 3 นครพนม - คำม่วน พร้อมพบปะตัวแทนผู้ประกอบการค้าชายแดนภาคเอกชน รวมถึงสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครพนม สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หอการค้าจังหวัดนครพนม เนื่องจากเป็นจังหวัดชายแดนที่มีตัวเลขเศรษฐกิจการค้าชายแดน มีเงินสะพัดหมุนเวียนปีละนับแสนล้านบาท แต่ยังมีปัญหาในการค้าอีกหลายด้าน อาทิ ปัญหาเกี่ยวกับการออกใบกำเนิดสินค้าของกระทรวงพาณิชย์ รวมถึงบางหน่วยงาน ที่ยังมีวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ทำให้การส่งออกสินค้าหยุดชะงัก กระทบสินค้าจำพวกผักผลไม้ ที่จะขนส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และปัญหาเกี่ยวกับสาธารณูปโภคต่างๆ ในพื้นที่ด่านชายแดน ที่จะต้องได้รับการพัฒนาต่อเนื่อง ให้เกิดความสะดวก
ดร.มนพร เจริญศรี หรือ ส.ส.เดือน เปิดเผยอีกว่า ในส่วนความคิดเห็นส่วนตนัวในการจัดตั้งรัฐบาล ยืนยันว่ายอมรับมติเสียงข้างมาก รวมถึงประชาธิปไตยเป็นหลัก ในเมื่อพรรคก้าวไกลได้ที่ นั่งมากเป็นอันดับ 1 พรรคเพื่อไทย ได้จำนวนที่นั่ง ส.ส. มากเป็นอันดับ 2 ดังนั้นจึงเห็นว่าพรรคเพื่อไทย จะต้องสนับสนุนพรรคอันดับ 1 ในการจัดตั้งรัฐบาล และเชื่อมั่นว่า จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างแน่นอน ด้วยคะแนนเสียงข้างมากที่มาจากประชาธิปไตย เป็นสำคัญ