เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.66 นายวิชัย วงศ์ศรีไชย นายกสมาคมชาวไร่อ้อย โคกสำโรง,สระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี และ นายวิโรจน์ ผดุงกลิ่น นายกสมาชิกชาวไร่อ้อย อำเภอท่าหลวง จังหวัดลพบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวภายหลังจากพาเกษตรกรชาวไร่อ้อยไปยื่นหนังสือไห้กับนางเพชรรัตน์ เลิศรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เพื่อผ่านไปยังรัฐบาลเพื่อทวงถามถึงเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเพื่อลดต้นทุนการตัดอ้อยสดให้กับชาวไร่ 1 ฤดูการผลิต คือปีการผลิต และปีการผลิต 65/ 66 ตามที่คณะรัฐมนตรี ในคราวประชุมเมื่อวันที่11พฤษภาคม 2564 (รัฐบาลที่แล้ว) ได้มีมติรับทราบและอนุมัติโดยได้ให้รับการสนับสนุน เงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเพื่อลดต้นทุนการตัดอ้อยสดให้กับชาวไร่ 1 ฤดูการผลิต คือปีการผลิต และปีการผลิต 65/ 66 แต่เนื่องจากเวลาเนิ่นนาน เกษตรกรจึงได้มาทวงถาม เพราะจะเริ่มเข้าฤดูกาลปลูกอ้อยอีกฤดูกาลแล้ว
ซึ่งฤดูการผลิต65 /66 การหีบอ้อยผลิตน้ำตาลให้สิ้นสุดตั้งแต่เดือนเมษายน 2562 เกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูการผลิต ปี 65/66 ตามโครงการดังกล่าวจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล ตามโครงการดังกล่าว สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยเป็นอย่างมากเนื่องจากเกษตรกรชาวไร่อ้อย ต้องแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากอัตราค่าแรงในการ จ้างตัดอ้อยสดสูงกว่าอัตราค่าจ้างแรงงานในการตัดอ้อยไฟไหม้
ดังนั้นจากปัญหาดังกล่าวสมาคมชาวไร่อ้อย โคกสำโรง, ท่าหลวง ได้รับการร้องเรียนจากสมาชิกชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูการผลิต 65/ 66 ได้มายื่นหนังสือผ่านผู้ว่าฯ เพื่อนำไปเสนอต่อรัฐบาลให้รับทราบและขอให้จัดสรรงบประมาณช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย ที่ตัดอ้อยสดส่งโรงงานในฤดูการผลิต ในอัตราตันละ 120 บาท จะทำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยได้รับราคาอ้อยใกล้เคียงต้นทุนการผลิต และมีผลตอบแทนเพียงพอในการที่จะนำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียน ในการประกอบอาชีพ รวมถึงดำรงชีพของตนเองและครอบครัว กว่า 3,000 รายในฤดูการผลิต 66/67 ต่อไป
นายวิโรจน์ ผดุงกลิ่น นายกสมาคมชาวไร่อ้อยอำเภอท่าหลวง กล่าวด้วยว่า หากรัฐบาลยังนิ่งเฉย ไม่ช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่ ซึ่งกำลังเดือดร้อนอยู่กว่า 3,000 ราย ที่กำลังรอ จากรัฐบาล ส่งมาให้ หากยังนิ่งเฉยอยู่อีก ทางสมาคมชาวไร่อ้อย โคกสำโรงและท่าหลวง จะดำเนินการยกระดับ นำเกษตรกรชาวไร่อ้อยกว่า 3,000 รายนี้ เดินทาง เข้าพบรัฐมนตรีอย่างแน่นอน