นายก อบจ.สกลนคร ออกโรงแจง กรณีเพจดังแฉ อบจ.สกลฯเหมาเรือยอร์ชดูงานภูเก็ต ระบุเป็นโครงการศึกษาดูงานด้านการท่องเที่ยวและสมาร์ทซิตี้ เมืองอัจฉริยะ ยันทุกอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้

จากกรณีที่เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2566 เพจชื่อดัง “ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน” เผยแพร่โพสต์ได้โพสต์เรื่องราวการไปดูงานของหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง โดยมีข้อความว่า “ดูงานสมาร์ทซิตี้ บนเรือยอร์ช อบจ. สกลนคร ขนเจ้าหน้าที่ไปดูงาน smart city โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตรระยะสั้น การพัฒนาเมืองและสิ่งแวดล้อมมุ่งสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ ที่จัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร  กำหนดการแบ่งไว้ 3 ช่วง คือ วันที่ 25-26 พ.ค 66 อบรมเชิงปฏิบัติการที่มหาวิทยาลัย วันที่ 15-18 มิ.ย. ศึกษาดูงานที่นครศรีธรรมราชและภูเก็ต และวันที่ 7 ก.ค. สรุปบทเรียนและพัฒนาแผน ตั้งผู้เข้าร่วมอบรมไว้ 60 คน ค่าใช้จ่ายคนละ 28,800 บาท รวม 1,728,000 บาท

ช่วงแรกเริ่มต้นเหมือนจะดี แต่พอวันที่ 15-18 มิ.ย. ไปดูงาน smart city ที่นครศรีธรรมราชและภูเก็ต วันแรกเข้าศึกษาดูงานที่อุทยานการเรียนรู้เมืองนครศรีธรรมราช แต่หลังจากนั้นก็ขนกันไปทำบุญ ไหว้พระวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ช็อปชิมทุเรียนสาริกา จ.พังงา แล้วไปล่องเรือยอร์ช เหมาลำ เยือนเกาะเฮและเกาะราชา ต่อด้วยเช็คอินแหลมพรหมเทพดูพระอาทิตย์ตกดิน ตกค่ำมีงานเลี้ยงรับรอง แล้วแยกย้ายท่องราตรีเมืองภูเก็ต ก่อนเดินทางกลับสกลนครโดยสวัสดิภาพ” ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวปรากฏออกไปก็ปรากฏว่ามีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่วิจารณ์ว่าเป็นเรื่องใหม่เหมาะสม สิ้นเปลืองงบประมาณ ผลาญเงินภาษีประชาชน เป็นต้น ขณะที่บางส่วนก็แสดงความคิดเห็นว่า ถ้าไปเที่ยวนอกเวลาการศึกษาดูงาน ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องผิดอะไร เป็นต้น

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว วันที่ 30 มิถุนายน 2566 นายชูพงษ์ คำจวง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร ได้ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า กรณีดังกล่าวนั้นขอเรียนชี้แจงว่า เรื่องที่ปรากฏในสื่อโซเชี่ยลนั้น เป็นการเดินทางไปศึกษาดูงานของ อบจ.สกลนคร จริง ซึ่งเป็นการศึกษาอบรมดูงานเรื่องการท่องเที่ยวและเมืองอัจฉริยะ สมาร์ทซิตี้ซึ่งมีมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนครเป็นผู้นำเสนอโครงการ โดยมีบุคลากรของ อบจ.ทั้งหมด 60 คนเข้าร่วมอบรม โดยกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตและวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชี่ยลมีเดียนั้น ขอเรียนชี้แจงว่า ในส่วนค่าลงทะเบียนคนละ 28,000 บาทนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นค่าเดินทางเนื่องจาก อบจ.สกลนคร อยู่ห่างจากจังหวัดปลายทางที่กำหนดเดินทางไปศึกษาดูงาน จึงจำเป็นต้องนั่งเครื่องบินจากสกลนครไปลงที่ดอนเมือง และนั่งเครื่องต่อไปลงที่นครศรีธรรมราช ก่อนที่จะใช้รถบัสเดินทางต่อ ส่วนประเด็นเรื่องที่มีการกล่าวหาว่านั่งเรือยอร์ชไปศึกษาดูงานนั้น ขอชี้แจงว่าเป็นการเดินทางไปดูงานสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเรื่องปกติของภูเก็ตที่ใครมาดูงานเรื่องท่องเที่ยวก็ต้องนั่งเรือไปตามสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งเรือที่ใช้นั้นเป็นเรือยอร์ชโดยสาร ไม่ใช่เรือยอร์ชหรูหราที่คนมีเงินใช้ท่องเที่ยวกัน และใช้งบประมาณเพียง 9,000 บาทต่อวันเท่านั้น

ในส่วนประเด็นเรื่องที่มีการกล่าวหาว่าไปช็อปทุเรียนสาริกาและไปไหว้พระนั้น ขอชี้แจงว่าทุเรียนดังกล่าวนั้น อบจ.พังงา จัดไว้ให้กับคณะศึกษาได้ชิม เพื่อเป็นการโปรโมททุเรียนของเขา ไม่ได้มีการไปซื้อแต่อย่างใด ส่วนเรื่องแวะไหว้พระนั้นก็เป็นเรื่องปกติทั่วไปที่ไปจังหวัดไหนก็แวะไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัด และเป็นการทำนอกเวลาแล้ว ส่วนสาเหตุที่มีภาพดังกล่าวเผยแพร่ในโซเชี่ยลนั้น ตนมองว่าน่าจะเป็นเรื่องการเมืองใน อบจ.สกลนครเอง ที่มี ส.อบจ.บางคนไม่ได้เดินทางเข้าร่วม อาจจะต้องการสร้างกระแส ก็ต้องขอขอบคุณที่ทำให้ อบจ.สกลนครเป็นที่รู้จัก ซึ่งขอเรียนว่าโครงการดังกล่าวนั้น ดำเนินการด้วยความโปร่งใส และพร้อมจะให้ทุกฝ่ายเข้ามาตรวจสอบได้ ทั้งยืนยันว่ายังเป็นโครงการที่คุ้มค่ากับเงินงบประมาณอย่างแน่นอน