ตัวแทนผู้ถือหุ้น STARK เรียกร้องให้ผู้บริหารชุดปัจจุบันเปิดเผยแนวทางแก้ไขวิกฤติภายในวันนี้ เพราะเป็นวันซื้อขายวันสุดท้ายหุ้น STARK ก่อนถูกแขน SP ยาว ไม่ใช่รอการตัดสินใจไปถึง 19 ก.ค.ตามที่ผู้บริหารแจ้งต่อ ตลท.ไม่เช่นนั้นก็ขอให้ ตลท.เลื่อนกำหนดขึ้น SP ออกไปก่อน ให้นักลงทุนรายย่อยได้มีข้อมูลเพียงพอต่อการตัดสินใจ

 

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.66 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่า วันที่ 30 มิ.ย.2566 เป็นวันซื้อขายวันสุดท้ายของหลักทรัพย์ STARK ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทั่วไปควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนการตัดสินใจลงทุน หรือตัดสินใจใช้สิทธิใช้เสียงในฐานะผู้ถือหุ้นของบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) เนื่องจากกรณีเปิดซื้อขายชั่วคราวของหุ้น STARK

ทั้งนี้ ตลท.จะขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) เพื่อสั่งห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ STARK อีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม 2566 ไปจนกว่าบริษัทจะสามารถดำเนินการแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน จากเหตุส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ และดำเนินการให้บริษัทมีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขายได้ตามปกติ

นายณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ประธานบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า การที่นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ รักษาการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร STARK เสนอ 4 แนวทางในการแก้ไขวิกฤติโดยจะใช้เวลาหาข้อสรุปภายในวันที่ 19 ก.ค.นั้นทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยมากกว่า 11,000 รายได้รับผลกระทบ เพราะตลท.กำหนดให้ซื้อขายหุ้น STARK วันนี้เป็นวันสุดท้ายก่อนขึ้น SP ยาว โดยที่มีข้อมูลที่ไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจสำคัญ

ทั้งนี้หากคณะผู้บริหาร STARK เลือกแนวทางข้อ 3 คือ เพิ่มทุนจดทะเบียน ทังจากผู้ถือหุ้นเดิม หรือผู้ลงทุนใหม่ ก็สมควรต้องประกาศให้ชัดเจนอย่างช้าสุดในวันนี้ เช่น หากเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม กลุ่มนายวนรัชต์จะคงรักษาสัดส่วนเดิมหรือไม่ หรือหากขายรายใหม่ก็ต้องประกาศชัดเจนว่าเป็นใคร เช่น กลุ่ม TOA หรือพันธมิตร และได้เพิ่มทุนจนทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นกลับมาบวกมีเงินมาหมุนเวียนกิจการหรือไม่ แต่หากคณะผู้บริหารจะประกาศชัดเจนเลยในวันนี้ว่าจะเลือกทางล้มละลาย ทางผู้ถือหุ้นรายย่อยก็จะได้ตัดใจขายทิ้งไป แม้จะแทบไม่มีมูลค่าแล้ว และค่อยเดินหน้าฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายชดเชยกันต่อไป

"หากคำตอบชัดเจนในวันนี้ผู้ถือหุ้นรายย่อย 11,000 รายก็อาจมีทางเลือกทนถือหุ้นเอาไว้ เพื่อให้กิจการฟื้นตัวกลับมา หุ้นในมือก็อาจจะกลับมามีมูลค่า แต่หากไม่มีคำตอบวันนี้ ต้องไปรอวันที่ 19 กรกฎาคม ไม่มีความชัดเจนใดๆ แล้วแนวทางเพิ่มทุนล้มเหลว ต้องไปสู่แนวทางต่อไปคือยื่นล้มละลาย หากผู้ถือหุ้นรายย่อยถือไว้ก็เสี่ยงกลายเป็นศูนย์"