ที่ประชุม กบน.มีมติให้รักษาเสถียรภาพระดับราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบประชาชนในช่วงราคา LPG ตลาดโลกยังผันผวน โดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีสภาพคล่องดีขึ้นช่วยสนับสนุน ส่งผลให้ราคาขายปลีก LPG สำหรับถัง 15 กิโลกรัม คงเดิมต่อไปอีกถึงวันที่ 31 ส.ค. 66

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน. เมื่อวานนี้ (29 มิ.ย.)  ได้พิจารณาแนวทางการรักษาเสถียรภาพระดับราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2562 เนื่องจากราคาขายปลีก LPG มีราคามากกว่า 363 บาท เกินกว่าระดับราคาที่เหมาะสมสำหรับถัง 15 กิโลกรัม ซึ่งยังถือเป็นวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงตามหลักเกณฑ์การบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยังต้องเข้าไปรักษาเสถียรภาพด้านราคาตามแผนรองรับวิกฤตอยู่

โดย กบน.จึงมีอำนาจและหน้าที่ที่จะใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงออกประกาศกำหนดอัตราเรียกเก็บ เพื่อรักษาเสถียรภาพระดับ
ราคาขาย LPG ที่เหมาะสม ซึ่งจะส่งผลให้ราคาขายปลีก LPG สำหรับถัง 15 กิโลกรัม ยังเป็นไปตามกรอบเป้าหมายราคาขายปลีกก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) กำหนดต่อไปเป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-31 ส.ค.66

ทั้งนี้ กบน. จะบริหารจัดการด้านเสถียรภาพราคาให้อยู่ที่ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัมไปจนถึงวันที่ 31 ส.ค.66  ทั้งนี้ แม้ราคา LPG Cargo จะปรับลดลง แต่สถานการณ์ราคา LPG Cargo ในตลาดโลกยังคงสูงและมีความผันผวนแต่ไม่มากนัก ในช่วงวันที่ 12 - 23 มิ.ย.66 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 416.05 เหรียญสหรัฐต่อตัน ลดลง 21.17 เหรียญสหรัฐต่อตัน ในช่วงวันที่ 29 พ.ค.- 9 มิ.ย.66  

สำหรับปัจจุบัน ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงโดยภาพรวมมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น โดยประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิ ณ วันที่ 25 มิ.ย.66 ติดลบอยู่ที่ 57,884 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชี LPG ติดลบ 45,975 ล้านบาท ส่วนบัญชีน้ำมันติดลบ 11,909 ล้านบาท