นายกสมคมชาวไร้อ้อย โคกสำโรง,สระโบสถ์ และ ท่าหลวง ไปยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ทวงถามถึงเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล เพื่อลดต้นทุนการตัดอ้อยสด ตันละ 120 บาท ให้กับชาวไร่ 1 ฤดูการผลิต คือปีการผลิต และปีการผลิต 65/ 66
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.66 นายวิชัย วงศ์ศรีไชย นายกสมาคมชาวไร่อ้อย โคกสำโรง,สระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี และนายวิโรจน์ ผดุงกลิ่น นายกสมาชิกชาวไร่อ้อย อำเภอท่าหลวง จังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย ตัวแทน ผู้ประกอบการที่ทำไร่อ้อยกว่า 100 นาย เดินทางเข้าพบนายอำพน อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ที่ศาลากลางจังหวัดลพบุรี
แต่เนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีติดราชการจึงมอบหมายให้นางเพชรรัตน์ เลิศรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีมารับมอบแทนเพื่อนำไป ทวงถามถึงเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเพื่อลดต้นทุนการตัดอ้อยสดให้กับชาวไร่ 1 ฤดูการผลิต คือปีการผลิต และปีการผลิต 65/ 66 ตามที่คณะรัฐมนตรี ในคราวประชุมเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ได้มีมติรับทราบและอนุมัติโดยได้ให้รับการสนับสนุน เงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเพื่อลดต้นทุนการตัดอ้อยสดให้กับชาวไร่ 1 ฤดูการผลิต คือปีการผลิต และปีการผลิต 65/ 66 แต่เนื่องจากเวลาเนิ่นนาน เกษตรกรจึงได้มาทวงถาม เพราะจะเริ่มเข้าฤดูกาลปลูกอ้อยอีกฤดูกาลแล้ว
สำหรับฤดูการผลิต 2565 /2566 การหีบอ้อยผลิตน้ำตาลให้สิ้นสุดตั้งแต่เดือนเมษายน 2562 เกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูการผลิต ปี 65/66 ตามโครงการดังกล่าวจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล ตามโครงการดังกล่าว สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยเป็นอย่างมากเนื่องจากเกษตรกรชาวไร่อ้อย ต้องแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากอัตราค่าแรงในการ จ้างตัดอ้อยสดสูงกว่าอัตราค่าจ้างแรงงานในการตัดอ้อยไฟไหม้
ดังนั้นจากปัญหาดังกล่าวสมาคมชาวไร่อ้อย โคกสำโรง, ท่าหลวง ได้รับการร้องเรียนจากสมาชิกชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูการผลิต 65/ 66 ขอนำเรียนปัญหาผ่านท่านผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลให้รับทราบและขอให้จัดสรรงบประมาณช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย ที่ตัดอ้อยสดส่งโรงงานในฤดูการผลิต ในอัตราตันละ 120 บาท จะทำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยได้รับราคาอ้อยใกล้เคียงต้นทุนการผลิต และมีผลตอบแทนเพียงพอในการที่จะนำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียน ในการประกอบอาชีพ รวมถึงดำรงชีพของตนเองและครอบครัว กว่า 3,000 ราย เดือดร้อน