TPL หุ้นไอพีโอน้องใหม่ มั่นใจเทรดวันแรกกระแสการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ชูจุดเด่นบริษัทชั้นนำในธุรกิจโลจิสติกส์ที่แตกต่างเน้นส่งสินค้าขนาดใหญ่ น้ำหนักมากหลากรูปทรงให้บริการทุกจุดทั่วไทย ลุยพัฒนาศักยภาพจัดส่งก้าวสู่ "Green logistics" พร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ฟากซีอีโอ"ภัทรลาภ ทวีวงศ์ ณ อยุธยา" มั่นใจการระดมทุนครั้งนี้ ช่วยผลักดันธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน เพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการต้นทุน สนับสนุนฐานะการเงินแข็งแกร่ง ฐานทุนแน่น สามารถรักษาอัตราหนี้สินต่อทุนไม่เกิน 0.5 เท่า และ จากนโยบายเงินจ่ายปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้สม่ำเสมอ

นายภัทรลาภ ทวีวงศ์ ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) หรือ TPL เปิดเผยว่า ในวันที่ 30 มิถุนายน 2566 หุ้นTPL จะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)ในหมวดบริการ โดยบริษัทฯมีจุดเด่นการเป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ให้บริการจัดส่งสินค้าหรือสิ่งของในประเทศไทย ทั้งสำหรับภาคธุรกิจและบุคคลทั่วไป โดยบริการจัดส่งพัสดุทุกขนาด ทั้ง B2B, B2C และ C2C มีความโดดเด่นในด้านการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก (Odd size/Oversize) ทั้งยังสามารถตรวจเช็คสถานะขนส่งได้แบบ Real-time ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการมาอย่างยาวนานกว่า 18 ปี

โดยภาพรวมผลการดำเนินงาน ณ ไตรมาส1/2566 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 2.41 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18.90% จากงวดเดียวกันปีก่อนเท่ากับ 18.04% และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) 0.53 เท่า

"การระดมทุนในครั้งนี้จะผลักดันให้อนาคต TPL เป็นหุ้น High Growth เพราะทำให้เพิ่มศักยภาพการจัดส่งและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุนสนับสนุนความสามารถทำกำไรสูงขึ้นช่วยผลักดันธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน เพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการต้นทุน สนับสนุนฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยเฉพาะการรักษาฐานอัตราหนี้สินต่อทุนไม่เกิน 0.5 เท่า สามารถให้ผลตอบแทนกับผู้ถือหุ้นได้ในระดับที่ดีในระยะยาว โดยปัจจุบันบริษัทฯมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 50%ของกำไรสุทธิ"

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการให้บริการอย่างต่อเนื่องทั้งกา รลงทุนสร้างศูนย์คัดแยกและกระจายสินค้าระดับภูมิภาค (Regional Hub) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดแยกและกระจายสินค้า,การเพิ่มจุดให้บริการ (Drop Point) แก่ลูกค้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการใช้บริการ และการลงทุนในยานพาหนะทั้งรถบรรทุก 10 ล้อ และ 6 ล้อ ซึ่งใช้สำหรับการขนส่งในเส้นทางระหว่างภูมิภาค (Line Haul) เป็นหลัก และรถกระบะ 4 ล้อ ซึ่งใช้สำหรับการกระจายสินค้าสู่ผู้รับปลายทาง เพื่อให้บริษัทมีกองยานพาหนะที่สามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น รวมทั้งบริษัทฯยังมีแผนที่จะปรับกองยานพาหนะของบริษัทด้วยการนำรถบรรทุกซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้ามาใช้ภายในปี 2566 โดยเริ่มจากเส้นทางในเขตภาคกลางและภาคตะวันออก และจะเร่งพัฒนาศักยภาพเพื่อก้าวสู่การขนส่งด้วยระบบ"Green logistics" ช่วยลดมลภาวะที่เกิดจากฝุ่นละออง PM 2.5 ขณะเดียวกันบริษัทฯมีกลยุทธ์ในการดำเนินงานจะให้ความสำคัญกับพัฒนาบุคลากรและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการขนส่งและระบบสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการมากขึ้น

นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) หรือ TPL กล่าวว่า มั่นใจว่าTPL จะเป็นหุ้นน้องใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ mai ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้น่าประทับใจให้กับนักลงทุน เนื่องจากมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งมีฐานะการเงินที่มั่นคงแข็งแรง รวมถึงมีจุดเด่นที่น่าสนใจทั้งจากโครงสร้างการให้บริการมั่นคงและครอบคลุมทั่วประเทศ จากประสบการณ์มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่สั่งสมมากกว่า 18 ปี ฐานลูกค้าที่หลากหลายทั้ง B2B B2C และ C2C ระบบสารสนเทศพร้อมรองรับการเป็น Data Driven Org.ได้ในอนาคต

นายวรนันท์ ถาวรนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการ การจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) หรือ TPL กล่าวว่า TPL เริ่มจากการเป็นผู้ให้บริการขนส่ง และพัฒนามาเป็นบริษัทโลจิสติกส์ที่มีความแตกต่างจากผู้ประกอบการทั่วไปอย่างเด่นชัด และสามารถเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจมาได้ทุกครั้ง โดยสะท้อนได้จากการรักษาความสามารถในการทำกำไรไว้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งภายหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพฐานทุนและโอกาสในการดำเนินธุรกิจให้มากขึ้น ผลักดันการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดในอนาคต และเชื่อว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง