เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.66 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พอใจกับการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทยในขณะนี้ ทางด้านตลาดผู้ใช้ในประเทศก็เติบโตสูงซึ่งเป็นผลจากมาตรการสนับสนุนทั้งด้านภาษีและไม่ใช่ภาษีของรัฐบาล
ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้รายงานว่าใน 5 เดือนแรกของปี 66 มียอดการจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ในประเทศรวม 33,365 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 485.15 หรือเกือบ 5 เท่า โดยส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ยนต์นั่ง 24,021 คัน จักรยานยนต์ 8,262 คัน รถโดยสาร 836 คัน รถยนต์สามล้อ 123 คัน รถบรรทุก 81 คัน และ รถกระบะ 42 คัน ซึ่งยอดจดทะเบียนล่าสุดนี้ ทำให้ยอดสะสมของยานยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV จดทะเบียนในประเทศไทย ณ วันที่ 31 พ.ค. 66 มีทั้งสิ้น 65,333 คัน
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า มาตรการสนับสนุนของรัฐบาลและการเติบโตของตลาดในประเทศ ได้ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นในนโยบายของประเทศไทยให้ความสนเลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิต ขณะผู้ผลิตรายเดิมก็เลือกจะขยายการผลิตเพิ่ม ซึ่งการออกไปชักจูงนักลงทุนหรือโร้ดโชว์ต่างประเทศของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ก็พบว่านักลงทุนให้ความสนใจอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทยอย่างมาก
โดยล่าสุดระหว่างวันที่ 18-23 มิ.ย. คณะผู้บริหารของบีโอไอได้มีการโร้ดโชว์ที่ยุโรปในประเทศเยอรมนีและ ฝรั่งเศส พบว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ การแพทย์และบริการด้านสุขภาพ ผู้ประกอบการสนใจเลือกบริษัทผู้ผลิต (Sourcing) ในไทยผลิตสินค้าป้อนลูกค้าเอเชีย
พร้อมกันนี้ ระหว่างวันที่ 27 มิ.ย.- 1 ก.ค. 66 ผู้บริหารของบีโอไออีกคณะก็ได้เดินทางไปโชว์ที่ประเทศจีนเป็นครั้งที่ 2 ของช่วงครึ่งแรกของปี 2566 เนื่องจากจีนให้ความสนใจการลงทุนในไทยอย่างมากโดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า